น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)ในอัตรา 7% ออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนก.ย.55 ออกไปอีก 2 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค.55-30 ก.ย.57 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และจะเริ่มจัดเก็บอัตรา 9% ตั้งแต่ 1 ต.ค.57
สำหรับสาเหตุในการขยายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เนื่องจากปีที่ผ่านมาไทยประสบอุทกภัยขนาดใหญ่ ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) มีอัตราการเติบโตลดลงจาก 7.8%ในปี 53 เหลือ 0.1% ในปี 54 ทำให้อัตราการบริโภค การส่งออกลดลง เพื่อให้ประชาชนมีกำลังซื้อในการจับจ่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น และการลงทุนกลับสู่ภาวะปกติ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า การขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อกระตุ้นให้มีการขยายตัวในด้านกำลังซื้อของประชาชนในด้านการใช้จ่ายและการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง กล่าวว่า การขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยยังคงจัดเก็บในอัตรา 7% ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากประเทศไทยได้ประสบกับปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งมีผลกระทบต่อภาวะการจ้างงานอันมีผลกระทบต่อเนื่องถึงกำลังซื้อของประชาชนโดยทั่วไปที่ลดต่ำลง
"การยังคงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราเดิม จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนสามารถมีกำลังซื้อในการจับจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้น และเป็นการลดภาระค่าครองชีพในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจอยู่ในระยะฟื้นตัวหลังประเทศประสบอุทกภัย อันจะทำให้การบริโภคและการลงทุนกลับเข้าสู่ภาวะปกติส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคง" รมช.คลัง กล่าว
ส่วนนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและการกำหนดความแน่ชัดในอัตราภาษีจะมีส่วนช่วยในการวางแผนการบริหารธุรกิจได้อย่างถูกต้อง โดยในส่วนของภาครัฐ เมื่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศมีความมั่นคงแล้วในระยะยาวจะทำให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มขึ้น