สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการเพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีให้ปรับตัวลดลง
ค่าเงินยูโรทรงตัวอยู่ที่ 1.2400 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.16% แตะที่ 1.5626 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.5601 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.630 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 78.240 เยน และขยับลง 0.01% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9683 ฟรังค์ จากระดับ 0.9684 ฟรังค์
ตลาดได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้ส่งสัญญาณว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีที่ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่ยุโรปจะแตกสลาย หากไม่มีการดำเนินการเร่งด่วนกว่านี้เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลหลายประเทศในภูมิภาค
นายมอนติแสดงความเห็นดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนี โดยระบุว่า ความคิดเห็นที่ไม่ลงร้อยกันในหลายๆเรื่องภายในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศ กำลังเบี่ยงเบนการดำเนินนโยบายแก้ไขวิกฤตหนี้และกำลังบ่อนทำลายอนาคตของสหภาพยุโรป (อียู)
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนในตลาดขานรับถ้อยแถลงของโฆษกรัฐบาลเยอรมนีวานนี้ถึงการสนับสนุนแผนการณ์ของอีซีบีในการเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศยูโรโซนซึ่งกำลังประสบปัญหา