ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดญี่ปุ่นทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในครึ่งปีแรก

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 3.0366 ล้านล้านเยน (3.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงกดดันจากยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกที่ขยายตัวในกรอบจำกัด

รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังระบุว่า ดุลการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นมาตรวัดทางการค้าที่กว้างที่สุดของญี่ปุ่นที่ครอบคลุมการขายสินค้าและบริการ รวมทั้งการลงทุนในต่างประเทศ ลดลง 45% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยอดการเกินดุลในครึ่งปีแรกนับว่าต่ำสุดนับแต่มีข้อมูลเปรียบเทียบในปี 2528

สำหรับเดือนมิ.ย. ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.333 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 19.6% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ขณะที่กระทรวงการคลังยังย้ำถึงความจำเป็นของการจับตามองราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และการแข็งค่าของเงินเยนในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด

สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขาดดุลการค้าของสินค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแตะ 2.4957 ล้านล้านเยน จาก 4.957 แสนล้านเยนในช่วงเดียวกันของปี 2554

ในขณะเดียวกัน ยอดการนำเข้าขยายตัว 9.2% แตะ 34.0445 ล้านล้านเยน จากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้นในการผลิตพลังงานความร้อน เพื่อชดเชยกับการลดพลังงานนิวเคลียร์จากความกังวลด้านความปลอดภัย ภายหลังโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิได้รับผลกระทบจากภัยสึนามิเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับยอดการส่งออกขยายตัวปานกลาง 2.8% แตะ 31.5488 ล้านล้านเยน จากยอดส่งออกรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ไปยังสหรัฐ และประเทศอื่นๆอย่างแข็งแกร่ง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน