บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการส่งออกของจีนในเดือนกรกฎาคมมีแนวโน้มขยายตัวคงที่หรือลดลงเล็กน้อย ในขณะที่การขยายตัวของการนำเข้าอาจจะเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน
นักวิเคราะห์ต่างชี้ว่าจีนยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ตึงเครียดต่อไปในอีกสองสามเดือนข้างหน้า
นายเหลียน ผิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชันส์ คาดว่ายอดนำเข้าของจีนในเดือนกรกฎาคมจะดีดตัวขึ้นจากตัวเลขในเดือนมิถุนายน มาอยู่ที่ระดับ 1.60 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้จีนได้เดินหน้าการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยหนุนให้อุปสงค์ต่อสินค้าโภคภัณฑ์นำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น
จากการวิเคราะห์ของนายเหลียน คาดว่ายอดการนำเข้าของจีนจะขยายตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะมีเสถียรภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายหลี่ เจี้ยน นักวิจัยจากสถาบันศึกษาวิจัยด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ มีความเห็นเช่นเดียวกันว่าการขยายตัวของการนำเข้าจะมีเสถียรภาพในช่วงเริ่มต้นของโครงการลงทุนประกอบกับการดีดตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
เขาเสริมว่าไม่มีแนวโน้มว่าภาคการส่งออกของจีนในเดือนกรกฎาคมจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าในตลาดสหรัฐและยุโรป และคาดว่าการส่งออกของจีนไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวมากนักในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่ซบเซา
นายเหลียนประมาณว่าการส่งออกของจีนในเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.90 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกจะยังคงขยายตัวที่ราว 10% ในช่วงตลอดทั้งปี
การส่งออกของจีนได้เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.8021 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งชะลอลงจากระดับการขยายตัวที่ 15.3% ในเดือนพฤษภาคม สำหรับยอดการนำเข้านั้นสูงขึ้น 6.3% สู่ระดับ 1.4848 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับลดลงจากการขยายตัวที่ 12.7% ในเดือนก่อนหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน