สื่อท้องถิ่นอินโดนีเซียรายงานในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีซูสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ของอินโดนีเซีย ได้เรียกร้องให้ทางการท้องถิ่นแก้ปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เพื่อช่วยกระตุ้นการลงทุนในภาคส่วนดังกล่าว
นายธัมริน สิฮิเต ผู้อำนวยการแร่ธาตุและถ่านหินในกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังปัญหาใบอนุญาตเป็นอุปสรรคครั้งใหญ่ต่อผู้ประกอบการเหมืองแร่ ที่ได้รับคำสั่งให้มีความ “โปร่งใสและไร้มลทิน" ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลักในการได้รับใบอนุญาต
ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุดโดโยโน กล่าวว่า ผู้ว่าการในหลายจังหวัดจะได้รับอำนาจมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โพสต์ รายงานคำกล่าวของประธานาธิบดียุดโดโยโนว่า “มีปัญหาเกิดกับใบอนุญาตเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีจำนวนกว่าพันใบ เราต้องแก้ปัญหานี้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวทำให้การลงทุนชะลอลงและทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก"
“ในหลายครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนผู้ว่าการจังหวัดหรือนายกเทศมนตรี มักจะมีการเปลี่ยนใบอนุญาตด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเสมือนกับระเบิดเวลา" ประธานาธิบดียุดโดโยโนกล่าว
ข้อมูลจากสำนักงานผู้อำนวยการแร่ธาตุและถ่านหินสังกัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า มีการออกใบอนุญาตให้ทำเหมืองแร่จำนวน 10,566 ใบ โดยจากจำนวนทั้งหมด มีใบอนุญาตจำนวน 5,940 ใบที่มีปัญหา
ในเดือนพ.ค. อินโดนีเซียสั่งห้ามการส่งออกวัตถุดิบเหมืองแร่ 65 รายการ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการจะต้องทำการสร้างโรงหลอมและชำระภาษีส่งออก 20% ล่วงหน้า จากยอดการส่งออกสินค้าเหมืองแร่ที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการทั้งหมดภายในปี 2557
ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าว ได้กำหนดขึ้นด้วยเป้าหมายที่จะกระตุ้นรายได้ของรัฐบาลให้เพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน