สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และเงินเยน หลังจากที่ภาคการผลิตและภาคการส่งออกของเยอรมนีหดตัว ตอกย้ำว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนส่งผลกระทบต่อเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ขณะที่กรีซก็ถูกปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ
ณ เวลา 19.01 น.ตามเวลาประเทศไทย เงินยูโรอ่อนค่า 0.4% เมื่อเทียบดอลลาร์ ที่ระดับ 1.2353 ดอลลาร์/ยูโร และอ่อนค่า 0.6% เมื่อเทียบเงินเยน ที่ 96.89 เยน/ยูโร ขณะที่เงินเยนแข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบดอลลาร์ ที่ระดับ 78.43 เยน/ดอลลาร์
นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่า เงินยูโรอาจร่วงลงสู่ระดับ 1.2280 ดอลลาร์/ยูโรในสัปดาห์หน้า
กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.9% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากผลผลิตภาคการผลิตที่ร่วงลง 1% ส่วนการผลิตสินค้าทุนร่วงลง 1.6% และกิจกรรมด้านการก่อสร้างร่วง 2% หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 2.6% ในเดือนก่อนหน้า
ขณะเดียวกันสำนักงานสถิติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า การส่งออกและนำเข้าของเยอรมนีปรับตัวลงในเดือนมิ.ย. หลังจากที่มีการปรับตัวขึ้นในเดือนก่อนหน้า
Destatis รายงานว่า การส่งออกเดือนมิ.ย.ลดลง 1.5% แตะ 9.23 หมื่นล้านยูโร หลังจากพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การนำเข้าร่วงลง 3% แตะ 7.61 หมื่นล้านยูโร เทียบกับการทะยานขึ้น 6.2% ในเดือนก่อนหน้า
ด้านสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่เชิงลบ จากเดิมที่มีเสถียรภาพ อันเนื่องมาจากความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
S&P คงอันดับเครดิตของกรีซไว้ที่ CCC แต่การปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อล่าสุดบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มที่ S&P จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงในอนาคต