บริษัทญี่ปุ่นที่ย้ายสำนักงานใหญ่หรือธุรกิจที่สำคัญมายังสิงคโปร์นั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมุมมองที่ว่าสิงคโปร์เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการกำกับดูแลกระแสการลงทุนใหม่ๆสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า พานาโซนิค คอร์ปและมิตซุย เคมิคัล อิงค์ เพิ่งย้ายธุรกิจที่สำคัญบางส่วนจากญี่ปุ่นมายังสิงคโปร์ ในขณะที่โฮย่า เซอร์จิคัล ออพติค อิงค์ ไม่เพียงแค่ก่อตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์เท่านั้นแต่นายฮิโรชิ ซูซุกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารก็ยังย้ายมาประจำที่สิงคโปร์เพื่อกำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัททั่วโลกด้วย
คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจของสิงคโปร์ระบุในอีเมล์ที่ส่งมายังสำนักข่าวเกียวโดว่า เนื่องจากความก้าวหน้าของเอเชีย บริษัทต่างๆ "ย้ายผู้บริหารระดับสูงมาประจำที่สิงคโปร์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะสามารถตัดสินใจและดำเนินงานได้จากใจกลางของเอเชีย"
ผลสำรวจขององค์กรการค้าภายนอกของญี่ปุ่น ระบุว่า 36% จากบริษัทญี่ปุ่นในสิงคโปร์ 213 แห่งที่ตอบแบบสอบถามเปิดเผยว่า พวกเขามีส่วนร่วมในการทำงานที่สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค ในขณะที่อีก 27% ระบุว่า พวกเขากำลังคิดว่าจะย้ายส่วนของสำนักงานใหญ่มาที่สิงคโปร์เพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่ากระแสการย้ายสำนักงานดังกล่าวมีเพิ่มมากขึ้น หลังจากเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมและสึนามิกระหน่ำญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งกระตุ้นให้บริษัทญี่ปุ่นเห็นความจำเป็นที่จะต้องกระจายการดำเนินงานเพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต
ทั้งนี้ สิงคโปร์ได้ปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงในหลายปีที่ผ่านมา สู่ระดับ 17% ถือเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่ต่ำสุดในเอเชีย โดยคิดเป็นเกือบครึ่งของอัตราภาษีนิติบุคคลของญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับ 30%
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีกฎการเข้าประเทศที่ยืดหยุ่น ซึ่งทำให้บริษัทสามารถรับสมัครพนักงานจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น ตลอดจนนโยบายการศึกษาแบบสองภาษายังทำให้มั่นใจได้ว่าแรงงานจะสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีนและภาษาท้องถิ่นอื่นๆ