นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจมาหารือเรื่องภาวะด้านพลังงานเพราะขณะนี้รัฐบาลต้องให้ความใส่ใจด้านพลังงานในระยะยาว เนื่องจากมีความเป็นห่วงว่า แหล่งพลังงานที่มีอยู่ในขณะนี้อาจจะไม่เพียงพอในอนาคต จึงมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไปจัดหาแหล่งพลังงานอื่นๆ หรือพลังงานทางเลือก เช่น ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีจำนวนน้อยลง เพราะหากไม่เร่งหาแนวทางเอาไว้อาจจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอาจจะเป็นปัญหาต่อประเทศในระยะยาว ทั้งในส่วนของพลังงานในประเทศและผู้ที่จะลงทุน
ทั้งนี้ได้มอบให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบหาแหล่งพลังงาน ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดูพื้นที่เพาะปลูกพืชพลังงานว่ามีเพียงพอหรือไม่ หรือสามารถขยายพื้นที่ในการปลูกพืชพลังงานเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ กระทรวงการคลัง ให้ดูเรื่องอัตราภาษีสรรพสามิตเกี่ยวกับรถยนต์ประหยัดพลังงานว่าโครงสร้างภาษีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังสามารถใช้ได้ต่อไปในอนาคตหรือไม่ หรือจะต้องมีการทบทวน
"ถ้าหากเราไม่เตรียมการล่วงหน้าก็จะเป็นปัญหาใหญ่มากของประเทศ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทั้งประเทศต้องตระหนัก มองให้เห็นปัญหาและอุปสรรค การที่เรามีแหล่งก๊าซธรรมชาติ ไม่ว่าจะใกล้หรือจะไกล โลกนี้ก็แย่งพลังงานพอสมควร ถ้าหากเราเดินหน้าหาแหล่งพลังงานใหม่ ถ้ารัฐบาลเดินหน้าสังคมก็ไม่ต้องกังวล"รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนข้อกังวลที่อาจจะมีบางฝ่ายมองว่าการหาแหล่งพลังงานใหม่จะมีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ให้ทางกระทรวงพลังงานไปศึกษาหาแนวทางรองรับ
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ว่ามีฐานการผลิตหรือมีนิคมอุตสาหกรรมเพียงพอที่จะรองรับการลงทุนหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่