กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนเม.ย. หดตัวลง 10.7% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.292 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยเป็นผลมาจากตัวเลขนำเข้าที่ร่วงลงเพราะราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ขณะที่การส่งออกปรับตัวสูงขึ้น
ยอดนำเข้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนมิ.ย.ลดลง 1.5% มาอยู่ที่ 2.2790 แสนล้านดอลลาร์ โดยราคานำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยต่อบาร์เรลอยู่ที่ 100.13 ดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 107.91 ดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 0.9% แตะ 1.8497 แสนล้านดอลลาร์ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายยานยนต์ ชิ้นส่วน และเครื่องยนต์ที่ทำสถิติพุ่งขึ้นแตะ 1.293 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่และมีความอ่อนไหวทางการเมืองนั้น เพิ่มขึ้น 5.2% สู่ระดับ 2.740 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกไปยังจีนลดลง 4.3% สู่ระดับ 8.52 พันล้านดอลลาร์ ส่วนยอดนำเข้าของสหรัฐจากจีนขยายตัว 2.8% แตะ 3.592 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับญี่ปุ่นหดตัวลง 7.2% แตะ 5.97 พันล้านดอลลาร์ โดยการนำเข้าจากญี่ปุ่นขยับลง 1.6% สู่ระดับ 1.194 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.6% แตะ 5.97 พันล้านดอลลาร์
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 2.9256 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อนหน้า โดยการนำเข้าของสหรัฐในระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย. เพิ่มขึ้น 5.7% สู่ระดับ 1.38649 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.9% แตะ 1.09393 ล้านล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน