ยอดการยึดบ้านติดจำนองเดือนก.ค.สหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 22 บ่งชี้อสังหาฯฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 9, 2012 22:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เรียลตี้แทรคเปิดเผยว่า ยอดการยึดบ้านติดจำนองในสหรัฐประจำเดือนก.ค.ซึ่งรวมถึงการผิดนัดชำระหนี้ การแจ้งกำหนดประมูลขายบ้าน และการแจ้งเตือนการยึดบ้านโดยธนาคาร ปรับตัวลดลง 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 191,925 หลัง หรือในสัดส่วน 1 ต่อ 686 หลัง ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 22 เมื่อเทียบเป็นรายปี

รายงานของเรียลตี้แทรคระบุว่า การแจ้งเตือนการยึดบ้านในธนาคารใน 38 รัฐและดิสทริก ออฟ โคลัมเบียปรับตัวลดลง โดยรัฐเนวาด้ามียอดการแจ้งเตือนการยึดบ้านลดลงมากที่สุดถึง 71% จากปีที่แล้ว ตามด้วยรัฐเวอร์จิเนียลดลง 65% รัฐแคลิฟอร์เนียลดลง 44% รัฐจอร์เจียลดลง 39% และรัฐวอชิงตันลดลง 35%

ส่วนรัฐคอนเนคติกัตมียอดการแจ้งเตือนการยึดบ้านเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า รองลงมาคือรัฐนิวเจอร์ซี และรัฐเพนซิลเวเนีย

การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของยอดการยึดบ้านติดจำนองในสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น และข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่สมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลางสหรัฐ (แฟนนี เม) ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่สดใส

นายดั๊ก ดันแคน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแฟนนี เม กล่าวว่า "แม้ว่ามีสัญญาณการปรับตัวย่ำแย่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงมีความสดใส ซึ่งนับเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจ"

รายงานคาดว่า หากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ยอดขายบ้านซึ่งรวมไปถึงบ้านใหม่และบ้านมือสอง อาจเพิ่มขึ้น 8.8% แตะที่ 4.97 ล้านยูนิต ในขณะที่ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้น 18.6% แตะ 510,000 ยูนิต ถึงแม้ว่าจะยังต่ำกว่าระดับเป็นการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งก็ตาม

นอกจากนี้ คาดว่าการลงทุนในที่อยู่อาศัยคาดว่าอาจปรับตัวขึ้นในปีนี้แต่จากฐานที่อยู่ในระดับต่ำมาก และคาดว่าจะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2548

ผลการสำรวจตลาดบ้านล่าสุดของแฟนนี เม พบว่า เจ้าของบ้านมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการคาดการณ์ราคาบ้านในช่วง 1 ปีข้างหน้า และสัดส่วนของผู้บริโภคที่ระบุว่าจะซื้อบ้านหากย้ายที่อยู่นั้น เพิ่มขึ้น 6 % แตะระดับสูงสุดในการสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นเป็นปีที่สอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ