สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยูโรอ่อนค่าลงไม่มานักเนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการเพื่อปกป้องเสถียรภาพของยูโรโซน
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.53% แตะที่ 1.2299 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2364 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.11% แตะที่ 1.5635 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5653 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.580 เยน จากระดับ 78.400 เยน และพุ่งขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9767 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9713 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.09% แตะที่ 1.0576 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0566 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.29% แตะที่ 0.8116 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8140 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงจากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม ยูโรอ่อนค่าลงในกรอบที่จำกัดเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าอีซีบีจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวว่า "อีซีบีจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อปกป้องยูโรโซน และขอให้เชื่อมั่นว่า การดำเนินการเช่นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ยูโรโซนอยู่รอดปลอดภัย การจัดการกับต้นทุนการกู้ยืมที่ระดับสูงของรัฐบาลในยูโรโซนถือเป็นสิ่งที่อยู่ภายในขอบเขตอำนาจของอีซีบี" นักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายดรากิถือเป็นการส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจะเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตร หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนและอิตาลีได้ส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆในกลุ่มยูโรโซน
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค. ลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ 361,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 367,000 ราย และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 370,000 ราย บ่งชี้ตลาดแรงงานอาจเริ่มปรับตัวมีเสถียรภาพมากขึ้น
ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนเม.ย. หดตัวลง 10.7% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.292 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยเป็นผลมาจากตัวเลขนำเข้าที่ร่วงลงเพราะราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ขณะที่การส่งออกปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 13.00 น.ตามเวลาไทย เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. จากนั้นเวลา 13.45 น. ฝรั่งเศสจะเปิดเผยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., เวลา 15.00 น. อิตาลีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และในเวลา 15.30 น. อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ด้วย โดยเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค. และในเวลา 01.00 น. (เช้าวันที่ 11 ส.ค.) สหรัฐจะเปิดเผยดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.ค.