ศูนย์วิจัยการเงินของแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนจะยังคงปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. เนื่องจากมีแนวโน้มว่าการส่งออกจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
"การส่งออกของจีนในเดือนสิงหาคมจะลดลงจากเดือนก่อนหน้า และการส่งออกเมื่อเทียบรายปีจะยังคงขยายตัวในระดับต่ำ เมื่อพิจารณาจากโอกาสริบหรี่ที่เศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัว" รายงานระบุ
ศูนย์วิจัยมีมุมมองในเชิงลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขาดแรงกระตุ้น ส่วนเศรษฐกิจยุโรปก็กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราเพียง 1.5% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ลดลงจาก 2.4% ในไตรมาสแรก ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในโลกอาจหยุดนิ่งหรือไม่ขยายตัว หลังจากที่ภาวะถดถอยสิ้นสุดลงไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
รายงานระบุด้วยว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอาจขยายตัวช้าลง เนื่องจากแรงหนุนจากโครงการก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูประเทศหลังแผ่นดินไหวเริ่มอ่อนแรงลง ด้านประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็จะยังคงเผชิญแรงกดดันสูงในการรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยปฏิเสธความเป็นไปได้ที่การส่งออกของจีนจะร่วงลงอย่างรุนแรง แม้สภาพแวดล้อมในต่างประเทศดูมืดมนก็ตาม
"จีนจะเกินดุลการค้าประมาณ 1.50 แสนล้านดอลลาร์ปีนี้" รายงานระบุ
ทั้งนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการที่จีนเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า การส่งออกของจีนขยายตัว 1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน และลดลงอย่างฮวบฮาบจากอัตราขยายตัวที่ 11.3% ในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ค.หดตัวลง 16.8% เมื่อเทียบรายปี เหลือ 2.515 หมื่นล้านดอลลาร์
การส่งออกของจีนไปยังสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของจีน ทรุดลง 16.2% ในเดือนก.ค.