นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยถึงผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 55 ว่า ในการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลนั้น กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 17,180 ล้านบาท
ส่วนการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนมิถุนายน 2555 มีการกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding) จำนวน 33,350 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-bill) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของพันธบัตร FIDF 3 ที่จะครบกำหนดในวันที่ 2 กันยายน 2555 วงเงิน 206,023.25 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จะนำไปให้กองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศบริหารลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงให้เกิดผลตอบแทน และลดต้นทุนในการทำ Pre-funding
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงิน จำนวน 18,281.73 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 17,783.90 ล้านบาท เป็นการชำระหนี้ในประเทศ 17,703.89 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน และชำระหนี้ต่างประเทศ 80.01 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 61.07 ล้านบาท ดอกเบี้ย 12.34 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 6.60 ล้านบาท
ส่วนการชำระหนี้ของรัฐบาลจากเงินนอกงบประมาณในเดือนมิถุนายน 2555 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ที่กู้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 3) จำนวน 497.83 ล้านบาท โดยการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนดโดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
สำหรับการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนมิถุนายน 2555 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศเป็นเงิน 45,650 ล้านบาท ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจนั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 1,235 ล้านบาท
นายจักรกฤศฎิ์ ยังกล่าวถึงการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนกรกฎาคม 2555 ด้วยว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 18,000 ล้านบาท
ส่วนการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนกรกฎาคม 2555 มีการกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding) จำนวน 38,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-bill) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของพันธบัตร FIDF 3 ที่จะครบกำหนดในวันที่ 2 กันยายน 2555 วงเงิน 206,023.25 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จะนำไปให้กองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ และพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศบริหารลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงให้เกิดผลตอบแทน และลดต้นทุนในการทำ Pre-funding
ส่วนการชำระหนี้ของรัฐบาลในเดือนกรกฎาคม 2555 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงินจำนวน 16,111.42 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 15,946.14 ล้านบาท แบ่งเป็น การชำระหนี้ในประเทศ 15,750.29 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ยทั้งจำนวน และการชำระหนี้ต่างประเทศ 195.85 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 136.47 ล้านบาท และดอกเบี้ย 59.38 ล้านบาท
ส่วนการชำระหนี้ของรัฐบาลจากเงินนอกงบประมาณในเดือนกรกฎาคม 2555 กระทรวงการคลังได้ชำระหนี้ที่กู้ภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 3) จำนวน 165.28 ล้านบาท โดยการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนกำหนดโดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
ด้านการบริหารจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจนั้น ในเดือนกรกฎาคม 2555 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศเป็นเงิน 63,261.28 ล้านบาท ขณะที่การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจนั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 9,000 ล้านบาท