นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากที่กรมส่งเสริมการส่งออกพยายามกระตุ้นให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากไทยมีต้นทุนด้านนี้สูงถึง 15% ของมูลค่าสินค้า ขณะที่ประเทศที่มีการพัฒนาด้านโลจิสติกส์เต็มที่จะมีต้นทุนเพียง 3% นั้น ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้ถึง 717 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาทได้ในเร็วๆ นี้
"กรมฯ มีเป้าที่จะพัฒนาให้ไทยมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และคิดเป็นต้นทุนด้านนี้เพียง 5%เท่านั้น แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร เพราะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนพัฒนาครั้งนี้สูง ซึ่งเรามีงบประมาณจำกัด จึงควรค่อยๆ พัฒนาให้เกิดขึ้น เพราะต้องมีความพร้อมทั้งซอฟท์แวร์และสาธารณูปโภค ซึ่งไทยยังไม่พร้อมในทุกด้าน" นายวุฒิชัยกล่าว ในงานสัมมนา "โลจิสติกส์เชิงรุก โอกาสทางการค้าของไทยกับยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน"
ด้านนายสมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่วนต่างระหว่างต้นทุนการผลิตกับราคาขายของสินค้าไทยแตกต่างกันมาก ซึ่งส่วนที่หายไปนั้นไปอยู่ที่การขนส่ง เช่น รองเท้ามีต้นทุนการผลิตที่ 500 บาท ราคาขายจริง 2,000 บาท ส่วนที่หายไปกว่าครึ่งต้องเสียไปกับการขนส่ง ถ้ามีการพัฒนาให้ระบบการขนส่งที่ลดต้นทุนได้ เงินที่หายไปก็จะกลับไปที่ผู้ประกอบการ
ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้ได้ก่อนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เพราะหลังจากการเข้าเป็น AEC แล้วคู่แข่งจะมีเพิ่มขึ้นมาก ทั้งจากสมาชิกอาเซียนและนอกอาเซียน โดยมองว่าในปัจจุบันไทยยังไม่มีความพร้อมในด้านนี้เท่าที่ควร