ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านในสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี และยอดค้าปลีกของอังกฤษที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 271.22 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.
ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 5834.51 บวก 1.47 จุด ดัชนี DAX ปิดตลาดเยอรมนีที่ 6996.29 บวก 49.49 จุด ดัชนี CAC-40 ปิดตลาดฝรั่งเศสที่ 3480.49 บวก 31.29 จุด
-- -ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) หลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาส่งสัญญาณการสนับสนุนแผนการของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการใช้มาตรการรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นซิสโก้ ซีสเต็มส์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 85.33 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 13,250.11 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.98 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 1,415.51 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 31.46 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 3,062.39 จุด
-- -สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงซีเรียและเลบานอน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 95.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 93.93-95.75 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 116.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 115.50-117.03 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับฐานขึ้นของตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันนิวยอร์ก หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 12.6 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,619.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,619.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.60 ดอลลาร์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,435.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 39.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 583.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาส่งสัญญาณการสนับสนุนแผนการของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการใช้มาตรการรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.58% แตะที่ 1.2359 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2288 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.33% แตะที่ 1.5734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5682 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.350 เยน จากระดับ 78.990 เยน และร่วงลง 0.55% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9719 ฟรังค์ จากระดับ 0.9773 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.10% แตะที่ 1.0512 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0502 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.45% แตะที่ 0.8105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8069 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) หลังจากอังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด และนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีส่งสัญญาณการสนับสนุนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดขยับขึ้น 1.47 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 5,834.51 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,811.31-5,846.70 จุด