บริษัท KPMG คาดการณ์ว่า จีนจะยังคงเพิ่มการลงทุนโดยตรงในตลาดยุโรปและสหรัฐในอนาคต
รายงานดังกล่าวได้ระบุว่าอัตราเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ประกอบกับวิกฤตหนี้เสียในยุโรปและอเมริกา เป็นโอกาสที่เอื้อให้จีนเพิ่มเม็ดเงินลงทุนโดยตรงในตลาดดังกล่าว
รายงานยังได้เปิดเผยว่า กิจกรรมของจีนในการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ต่างชาตินั้น ส่วนใหญ่มุ่งไปที่อุตสาหกรรมพลังงานและไฟฟ้าเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ รวมไปถึงอุตสาหกรรมวัตถุดิบด้านเหมืองแร่
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ กิจกรรม M&A ของจีนในสหรัฐจะพุ่งเป้าไปที่ภาคพลังงาน ไฟฟ้า และการจัดซื้อ สำหรับในตลาดยุโรปจะเน้นภาคอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค เทคโนโลยีขั้นสูง โทรคมนาคม เครื่องจักรสำหรับงานก่อสร้าง และภาคการเงินเป็นหลัก ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของบริษัทจีนสำหรับตลาดและเทคโนโลยีของยุโรปและสหรัฐ
-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ประจำเดือนก.ค.ร่วงลง 8.7% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 7.58 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 2 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกซบเซายังคงสร้างแรงกดดันให้กับการลงทุนจากต่างประเทศ
นายเสิ่น ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า การร่วงลงของตัวเลข FDI ในเดือนก.ค.ส่งผลให้ยอดรวมของ FDI ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ระดับ 6.667 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงานของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า การลงทุนจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ร่วงลง 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 3.97 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค. ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 การลงทุนจากประเทศสมาชิกอียูซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีนนั้น ขยับขึ้น 1% จากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จีนสามารถดึงดูดเม็ดเงิน FDI จากสหรัฐได้ทั้งสิ้น 1.96 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน