นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.จะทยอยออกประกาศหลายฉบับเกี่ยวกับเงินทุนเคลื่อนย้ายในช่วงไตรมาสนี้และไตรมาสหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ ประชาชน ตั้งแต่การนำเงินออกไปลงทุนโดยตรงและเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริหารความเสี่ยงให้มีความคล่องตัว การนำเงินออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ จะมีการขยายประเภทของหลักทรัพย์และวงเงินลงทุน
ทั้งนี้ ธปท.จะมีการติดตามประเมินผลมาตรการที่นำมาใช้เพื่อปรับให้มึความเหมาะสม ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการรักษาความสมดุลของเงินทุนเคลื่อนย้าย เพราะขณะที่โลกมีปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ไทยกลับมีเงินทุนเคลื่อนย่ายเข้ามา อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนน้อยมาก สะท้อนว่าทุกฝ่ายมีความมั่นใจในระบบการเงิน ดังนั้นจึงต้องรักษาสมดุลให้ดี เพื่อช่วยให้ประหยัดในด้านต้นทุนการบริหารจัดการ
สำหรับสถานการณ์วิกฤติยุโรปที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น นายประสาร กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเปิด ดังนั้น จะบอกว่าไม่ได้รับกระทบเลยคงไม่ได้ แต่จาก 3 ด้านที่น่าจะได้รับกระทบทั้งการค้าระหว่างประเทศ ระบบการเงิน และสถาบันการเงินนั้น ขณะนี้เห็นได้ชัดว่าด้านการค้าระหว่างประเทศเริ่มเห็นผลกระทบแล้ว การส่งออกชะลอตัว มีผลไปถึงภาคการผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งไม่เพียงแค่จากเศรษฐของยุโรปมีปัญหา แต่มีผลกระทบมาถึงเอเชียที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยด้วย
นอกจากนั้น หลังจากส่งออกได้รับกระทบก็จะส่งผลต่อเนื่องไปยังภาคการผลิต และอาจส่งผลไปยังการอุปโภคบริโภค ซึ่ง ธปท.จะต้องติดตามต่อไป ส่วนภาคการเงินและสถาบันการเงินได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เพราะมีความเข้มแข็งเป็นภูมิคุ้มกันอยู่ ตลาดการเงินของไทยก็มีเสถียรภาพี่ดี ไม่มีประเด็นที่น่าเป็นห่วง