การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทในประเทศ โดยอัตราเติบโตผลกำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในจีนหดตัวลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอิงจากวารสารไชน่า ซีเคียวริตี้ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น 1,003 แห่งเปิดเผยผลกำไรสุทธิโดยรวมของครึ่งปีแรกที่ 1.8021 แสนล้านหยวน (2.838 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 6.75% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลขอัตราการเติบโตตัวกล่าวปรับลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีผลกำไรสุทธิครึ่งปีของบริษัทจดทะเบียน 1,096 แห่งเพิ่มขึ้นถึง 36.14% จากปีก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมเช่นเหล็กกล้า การก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างย่ำแย่ที่สุด เนื่องจากการปรับกระชับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนที่ชะลอตัวลง
ผลกำไรสุทธิโดยรวมของบริษัทเหล็กกล้า 8 แห่งซึ่งเปิดเผยรายงานนั้น ปรับลดลง 68.49% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 542 ล้านหยวน วนภาคการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างมีผลกำไรโดยรวมครึ่งปีแรกลดลง 28.67% จากปีที่แล้ว
ข้อมูลสถิติจากกระทรวงการคลังบ่งชี้ว่า ผลกำไรของรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของเศรษฐกิจจีนปรับตัวลดลง 13.2% ในช่วง 7 เดือนแรกของปี เมื่อทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาลงยังส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารของสายการบินหลักๆของประเทศมีแนวโน้มลดลงด้วย โดยแอร์ไชน่า, ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์, และ ไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ต่างก็คาดการณ์ผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรกว่าจะลดลงมากกว่า 50%
ทั้งนี้ ท่ามกลางความไม่เสถียรและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตหนี้ยูโรโซน เศรษฐกิจของจีนเติบโตขึ้น 7.6% ในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 3 ปี