โรงงานผลิตน้ำมันประกอบอาหารในจีนได้แสดงทีท่าว่าจะไม่ขึ้นราคาน้ำมันในขณะนี้ หลังการเจรจากับผู้ควบคุมราคา อย่างไรก็ตาม ภายใต้การควบคุมราคาดังกล่าว ผู้ผลิตต่างกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อครองส่วนแบ่งตลาด ซึ่งได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักให้แก่บรรดาบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม
ยี่ไห่ เคอร์รี่ กรุ๊ป (Yihai Kerry Group) ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันประกอบอาหารรายใหญ่ที่สุดในประเทศ เปิดเผยกับ Economic Information Daily วารสารในเครือของซินหัวว่า แม้ว่าราคาของเมล็ดพืชที่ใช้สกัดน้ำมันจากทั้งในประเทศและต่างประเทศจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันหยุดประจำชาติ ซึ่งเป็นช่วงฤดูสำคัญสำหรับการทำการตลาดก็กำลังใกล้เข้ามา บริษัทก็ยังคงจะไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าในระยะใกล้นี้
ยี่ไห่ เคอร์รี่เสริมว่า “เราไม่ได้อนุมัติการปรับขึ้นราคา รวมทั้งไม่ได้มีแผนที่จะปรับขึ้นราคาในระยะยาวด้วย"
หวัง ชิงหรง รองผู้จัดการทั่วไป สาขาน้ำมันและไขมันของไชน่า เกรน รีเสิร์ฟส คอร์ปเปอเรชั่น(CGRC) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันประกอบอาหารบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กของบริษัท แม้ว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาถั่วเหลืองในช่วงนี้ได้สร้างแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิตน้ำมันของบริษัทก็ตาม
นายโกว เบ่าชิง หัวหน้าบรรณาธิการของ www.cnyouzhi.com เว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนประตูสู่อุตสาหกรรม ซึ่งให้บริการข้อมูลด้านน้ำมันและเมล็ดพืชที่ใช้สกัดน้ำมัน กล่าวว่า “นอกจากการควบคุมราคาของรัฐบาลได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยยับยั้งความประสงค์ที่จะปรับขึ้นราคาของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันประกอบอาหารแล้ว บริษัทเหล่านี้ก็ยังหวั่นเกรงการเสียส่วนแบ่งตลาด หากว่าบริษัทปรับขึ้นราคาสินค้าด้วย" สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันตลาดน้ำมันประกอบอาหารบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กภายในประเทศมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมาก โดยยี่ไห่ เคอร์รี่ กรุ๊ป และ COFCO กรุ๊ปครองส่วนแบ่งตลาดถึง 60% ขณะที่ชางดง ลู่หัว ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตน้ำมันจากถั่ว มีส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันประกอบอาหาร 7-8%
นายโกวระบุอีกว่า ปัจจุบัน น้ำมันกากถั่วเหลืองมีราคาอยู่ที่ 4,300 หยวนต่อตัน ซึ่งหมายความว่ายังคงมีกำไรในการคั้นกากถั่วเหลือง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการบริโภคกากถั่วเหลืองมีปริมาณลดลง บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมมีแนวโน้มที่จะหันไปผลิตสินค้าอื่นหากราคาน้ำมันถั่วเหลืองไม่เพิ่มขึ้น