หนังสือพิมพ์ของอิตาลีฉบับหนึ่งรายงานวานนี้ว่า นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลี จะพบปะกับประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสที่กรุงโรมในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นว่าด้วยวิกฤตหนี้ยูโรโซน
รายงานระบุว่าการพบปะดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำทั้งสองได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี
ทั้งนี้ นายออลลองด์ และนางแมร์เคลก็จะประชุมกันในวันที่ 23 ส.ค.นี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราส ของกรีซ จะเดินทางไปยังเยอรมนี ในวันถัดไป และจะเดินทางไปยังฝรั่งเศสในวันที่ 25 ส.ค.
--การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทในประเทศ โดยอัตราเติบโตผลกำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในจีนหดตัวลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอิงจากวารสารไชน่า ซีเคียวริตี้ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น 1,003 แห่งเปิดเผยผลกำไรสุทธิโดยรวมของครึ่งปีแรกที่ 1.8021 แสนล้านหยวน (2.838 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 6.75% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลขอัตราการเติบโตตัวกล่าวปรับลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีผลกำไรสุทธิครึ่งปีของบริษัทจดทะเบียน 1,096 แห่งเพิ่มขึ้นถึง 36.14% จากปีก่อนหน้านั้น
--ผลสำรวจของบริษัทไรท์มูฟ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ เปิดเผยว่าราคาบ้านในอังกฤษร่วงลง 2.4% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 1.7% ในเดือนก.ค. ขณะที่ชาวอังกฤษยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย ท่ามกลางฐานะการเงินภาคครัวเรือนที่ย่ำแย่
ไรท์มูฟระบุว่าเมื่อเทียบรายปี ราคาบ้านในเดือนส.ค.ยังคงสูงขึ้น 2% แต่เป็นอัตราที่ชะลอลงจากที่ปรับขึ้น 2.3% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายปี
--ศาลจีนได้พิพากษาให้รอการลงโทษประหารชีวิตนางกู่ ไค่ไหล ภรรยาของนายป๋อ ซีไหล อดีตนักการเมืองอนาคตไกลของจีน ในข้อหาฆาตกรรมนายนีล เฮย์วู้ด นักธุรกิจชาวอังกฤษ โดยศาลให้รอการลงโทษประหารเป็นเวลา 2 ปี
คำตัดสินดังกล่าวหมายความว่า นางกู่อาจจะถูกจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งทำให้เธอไม่ต้องถูกตัดสินประหารชีวิตในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า
--เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตีส์ นิวส์ รายงานว่า ธนาคารรายใหญ่ของจีน 4 แห่งของรัฐบาล ได้เดินหน้าปล่อยกู้ในช่วงครึ่งแรกของเดือนส.ค.
รายงานระบุว่า ยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนของธนาคารรายใหญ่สุดของจีนทั้ง 4 แห่งแตะ 7 หมื่นล้านหยวนในช่วงครึ่งแรกของเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นราว 20% จากช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ค. และสูงกว่ายอดการปล่อยกู้ 2.5 หมื่นล้านหยวนในช่วงครึ่งแรกของเดือนมิ.ย. อย่างมาก
--ผลสำรวจโดยธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ของออสเตรเลียได้เปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคออสเตรเลียในเดือนกรกฎาคมได้ปรับลดลงเนื่องจากประชาชนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นหลังจากผ่านช่วง 2 เดือนที่มีการใช้จ่ายสะพัด
รายงานดัชนีสำรวจภาคธุรกิจรายเดือน (BSI) ของธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์นั้นลดลง 5.4% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสวนทางกับตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมิถุนายนและ 1.7% ในเดือนพฤษภาคม
--แหล่งข่าวในรัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า การผลิตทองคำของฟิลิปปินส์ลดลง 63% เมื่อเทียบรายปี สู่ 8,382 กิโลกรัม เนื่องจากธนาคารกลางฟิลิปปินส์ลดการซื้อทองคำลง 95% ในครึ่งแรกของปีนี้
ทั้งนี้ สำนักงานเหมืองแร่และวิทยาศาสตร์ธรณีวิทยา (MGB) กระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (DENR) ของฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ซื้อทองคำเพียง 786 กิโลกรัมในช่วง 6 เดือนแรกของปี เมื่อเทียบกับจำนวน 15,003 กิโลกรัมที่ซื้อในปีที่แล้ว
นายลีโอ ฮาซาเรโน ผู้อำนวยการ MGB แถลงว่า “ด้วยเหตุนี้ การซื้อทองคำของธนาคารกลางฟิลิปปินส์จึงมีสัดส่วนเพียง 9.37% ของการผลิตทองคำทั้งหมด เมื่อเทียบกับ 74% ในปีที่แล้ว"
--ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ที่มีการเผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของจีนในเดือนกรกฎาคมนั้นเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% เมื่อเทียบรายปีสู่ระดับ 17.24 ล้านตัน เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ความต้องการน้ำมันในประเทศลดลงตามไปด้วย
NDRC ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนได้เปิดเผยว่าโรงกลั่นน้ำมันในจีนผลิตน้ำมันดิบได้ทั้งหมด 34.16 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายปี ในขณะที่ผลิตภัณฑ์น้ำมันมียอดการผลิตเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน อยู่ที่ 21.46 ล้านตัน
--สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยในวันนี้ว่า กำหนดไถ่ถอนที่ยาวขึ้นสำหรับตราสารหนี้ต่างประเทศที่ธนาคารในเกาหลีใต้ถือครองอยู่นั้น เป็นปัจจัยบวกต่ออันดับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการระดมทุนใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมสำหรับธนาคารเกาหลีใต้ ซึ่งพึ่งพาการระดมเงินผ่านตลาดทุนอย่างมาก
“ธนาคารของเกาหลีใต้ออกตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศระยะยาวมากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยบวกด้านเครดิตสำหรับธนาคารเกาหลีใต้ เนื่องจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ระยะยาวจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการระดมทุนใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม" นายวอน ฮี-จิน นักวิเคราะห์จากมูดี้ส์ในฮ่องกง กล่าวในรายงานฉบับหนึ่ง