ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 272.8 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3513.28 จุด บวก 32.70 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7089.32 จุด บวก 55.64 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5857.52 จุด บวก 33.15 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีในระหว่างวัน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวลดลงในการประมูลตั๋วเงินคลังเมื่อวานนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 68.06 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 13,203.58 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.96 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 1,413.17 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 8.95 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 3,067.26 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการควบคุมการลุกลามของวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาคได้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 96.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนก.ย.ได้รับกำหนดส่งมอบแล้วในวันที่ 21 ส.ค. ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 96.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 114.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากความหวังที่ว่าจีน และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,642.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1641.5 - 1641.5 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 29.428 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 83.5 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,507.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 624.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 16.50 ดอลลาร์
-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนปรับตัวลดลงในการประมูลขายตั๋วเงินคลังเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูการประชุมของผู้นำยุโรปเพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในภูมิภาค
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.96% แตะที่ 1.2462 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2343 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.41% แตะที่ 1.5775 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5710 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.20% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.240 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 79.400 เยน และดิ่งลง 0.92% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9635 ฟรังค์ จากระดับ 0.9724 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.27% แตะที่ 1.0470 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0442 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.20% แตะที่ 0.8102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8086 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีน และธนาคารกลางยุโรปจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 33.15 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 5,857.52 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,824.37-5,872.59 จุด