นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบ สุรา และค่า ธรรมเนียมใบอนุญาตต่างๆ ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติวานนี้ ส่งผลให้กรมสรรพสามิตมีรายได้เพิ่มขึ้นรวมประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี
อนึ่ง ครม.วานนี้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบและสุรา และอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่างๆ เนื่องจากเป็นอัตราที่ใช้บังคับมานานและเป็นอัตราที่ไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ และค่าเงินในปัจจุบัน รวมถึงเพื่อลดจำนวนสถานที่ขายสุราและยาสูบให้น้อยลงอันจะช่วยให้การเข้าถึงสุรายาสูบของเยาวชนและ ประชาชนเป็นไปได้ยากขึ้น
สำหรับภาษีสรรพสามิตยาสูบมีการปรับเพิ่มอัตราค่าแสตมป์ยาเส้นยาสูบและอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประเภทต่างๆ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.นี้เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกยาสูบปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 3-14 บาท/ซอง
ประเภท อัตราภาษีเดิม อัตราภาษีใหม่ ตามมูลค่า(%) ตามปริมาณ ตามมูลค่า(%) ตามปริมาณ 1. ยาเส้น 0.1 0.01 บาท/ 10 กรัม 10 0.01 บาท/กรัม 2. ยาสูบ - บุหรี่ซิกาแรต 85 - 87 1.00 บาท/กรัม - บุหรี่ซิการ์ 10 0.5 บาท/กรัม 20 1.00 บาท/กรัม - บุหรี่อื่นๆ 0.10 0.02 บาท/ 5 กรัม 10 0.01 บาท/กรัม - ยาเส้นปรุง 10 0.5 บาท/ กรัม 20 1.00 บาท/กรัม - ยาเคี้ยว 0.10 0.09 บาท/ กรัม 10 0.10 บาท/กรัม
นอกจากนี้ยังมีการปรับขึ้นอัตราภาษีสุรากลั่น ชนิดสุราขาว ชนิดสุราผสม และชนิดสุราพิเศษประเภทบรั่นดี รวมถึงค่า ธรรมเนียมให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเพื่อสนับสนุนมาตรการควบคุมการบริโภคสุราของประชาชน โดยอัตราภาษี ใหม่ มีดังนี้
ประเภท อัตราภาษีเดิม อัตราภาษีใหม่ ตามมูลค่า ตามปริมาณ ตามมูลค่า ตามปริมาณ (บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์) (บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์) 1. สุราขาว 50 120 50 150 2. สุราผสม 50 300 50 350 3. สุราพิเศษประเภทบรั่นดี 48 400 50 400