ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.2% ปิดที่ 269.27 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3461.65 จุด ลบ 51.63 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7017.75 จุด ลบ 71.57 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5774.20 จุด ลบ 83.32 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขาดดุการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. และสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 30.82 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 13,172.76 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.32 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 1,413.49 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 6.41 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 3,073.67 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 97.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.26-97.54 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 114.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 113.53-115.27 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงไม่มากนัก หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำว่าเฟดจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหากจำเป็น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,640.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 29.556 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.80 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,526.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 18.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 628.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.55 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำว่าเฟดจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหากจำเป็น ซึ่งการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจะส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดน้อยลง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.98% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.490 เยน จากระดับอังคารที่ 79.270 เยน และดิ่งลง 0.42% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9586 ฟรังค์ จากระดับ 0.9626 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.41% แตะที่ 1.2521 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2470 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.52% แตะที่ 1.5865 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5783 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.23% แตะที่ 1.0506 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0482 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.22% แตะที่ 0.8126 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8108 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากบีเอชพี บิลลิตัน เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอลง ขณะที่นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมระหว่างผู้นำของประเทศต่างๆในยูโรโซน ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 83.32 จุด หรือ 1.42% แตะที่ 5,774.20 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,771.22-5,857.52 จุด