รายงานการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ระบุว่า เฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หากข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะมีการเปิดเผยต่อไปไม่แสดงถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างมาก
“สมาชิกจำนวนมากระบุว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะสนับสนุนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจไม่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งอย่างมากและอย่างต่อเนื่องของอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" เฟดระบุในรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้
ในการหารือดำเนินนโยบายในอนาคตนั้น เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดจำนวนมากระบุว่าการผ่อนคลายเพิ่มเติมอาจจะช่วยหนุนให้ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง
สมาชิก FOMC หลายรายกล่าวว่า การประเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจต่อไปจะช่วยสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งความจำเป็นสำหรับการดำเนินนโยบายเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องกันว่าจะมีการจับตาความคืบหน้าทางเศรษฐกิจและการเงินอย่างใกล้ชิด และจะพิจารณาอย่างระมัดระวังถึงข้อดีที่อาจจะเกิดขึ้นและข้อเสียของเครื่องมือทางการเงินต่างๆในการประเมินความเหมาะสมในการดำเนินนโยบายเพิ่มเติม
ในการประชุมดังกล่าว เฟดไม่ได้ประกาศนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เปิดกว้างสำหรับการดำเนินมาตรการเพิ่มเติม
รายงานการประชุมที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ส่งสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่เฟดให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้นสำหรับมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
เจ้าหน้าที่เฟดกล่าวว่าข้อมูลที่ได้รับในระหว่างช่วงการประชุมบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจตกต่ำลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
สมาชิก FOMC โดยทั่วไปคาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และหลังจากนั้นจะปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทางด้านนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะแสดงสุนทรพจน์ในสัปดาห์หน้าในการประชุมสัมมนาทางเศรษฐกิจประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณแก่นักลงทุนถึงเจตนารมณ์ด้านนโยบายของเฟด
ทั้งนี้ การประชุมครั้งต่อไปของ FOMC มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 12-13 ก.ย. โดยตลาดคาดว่าอาจจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะรวมถึงการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน