ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากนายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการดำเนินการปฏิรูปให้กับกรีซ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.6% ปิดที่ 267.69 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3432.56 จุด ลบ 29.09 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6949.57 จุด ลบ 68.18 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5776.60 จุด บวก 2.40 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลก หลังจากมีรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด และดัชนีภาคการผลิตของจีนหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 115.30 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 13,057.46 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 11.41 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 1,402.08 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 20.27 จุด หรือ 0.66% ปิดที่ 3,053.40 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากสหรัฐ ยุโรป และจีน เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานทั่วโลกหดตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 99 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 96.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.75-98.29 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 115.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 114.36-116.38 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยสัญญาเดือนธ.ค.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,672.80 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 32.30 ดอลลาร์ หรือ 1.97%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 30.456 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 90.00 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,554.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 28.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 656.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 27.85 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าสเปนกำลังเจรจากับประเทศยูโรโซนเกี่ยวกับเงื่อนไขการรับความช่วยเหลือด้านการเงิน
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.28% แตะที่ 1.2561 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2526 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนแรงลง 0.13% แตะที่ 1.5859 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5880 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.460 เยน จากระดับของวันพุธที่ 78.560 เยน และอ่อนแรงลง 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9560 ฟรังค์ จากระดับ 0.9583 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.63% แตะที่ 1.0437 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0503 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.07% แตะที่ 0.8127 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8133 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 2.40 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 5,776.60 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,764.02-5,809.26 จุด