ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสเรียกร้องให้กรีซยังคงปฏิบัติตามพันธสัญญาด้านการปฏิรูป โดยผู้นำทั้งสองมีเจตนารมณ์เช่นเดียวกันที่ต้องการให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซนต่อไป
“นับเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบของเรา" นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีกล่าวในการแถลงข่าวก่อนการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสที่เดินทางเยือนเยอรมนีเมื่อเย็นวานนี้ ตามเวลายุโรป
“ดิฉันจะสนับสนุนให้กรีซยังคงดำเนินการปฏิรูปต่อไป" นางแมร์เคลกล่าว
“ในขณะนี้เราต้องดำเนินการในสิ่งที่ได้มีการตัดสินใจไปแล้ว กรีซต้องดำเนินความพยายามที่จำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้"
ผู้นำเยอรมนีได้เน้นย้ำในการแถลงข่าวว่าจะไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับกรีซจนกว่ากลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเปิดเผยรายงานการประเมินความคืบหน้าเกี่ยวกับกรีซในเดือนหน้า
คณะผู้เชี่ยวชาญจากทรอยก้ามีกำหนดที่จะเดินทางไปยังกรีซอีกครั้งในเดือนก.ย.เพื่อประเมินความพยายามในการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยกรีซได้ให้คำมั่งที่จะลดรายจ่ายสาธารณะลงอีก 1.15 หมื่นล้านยูในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดต่อไปมูลค่าราว 3.15 หมื่นล้านยูโร
การแถลงข่าวเมื่อเย็นวานนี้ใช้เวลาเพียงแค่ราว 10 นาที โดยไม่มีช่วงเวลาในกการตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว
ก่อนหน้านี้ นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวในรายการวิทยุว่า การขยายระยะเวลาดำเนินการปฏิรูปให้กับกรีซ "ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา" ระบุการกระทำดังกล่าวจะยิ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับบรรดาเจ้าหนี้
"คำถามก็คือ เราจะฟื้นคืนความเชื่อมั่นของตลาดให้กลับคืนมาได้อย่างไร" เขากล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้กรีซดำเนินการปฏิรูปตามกรอบเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก