ผู้ว่าแบงก์ชาติออสเตรเลียชี้การลงทุนด้านทรัพยากรมีแนวโน้มเฟื่องฟูสูงสุด

ข่าวต่างประเทศ Friday August 24, 2012 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย กล่าวว่า การลงทุนด้านทรัพยากรของออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะรุ่งเรืองถึงขีดสุดในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้า พร้อมผลักดันการส่งออกทรัพยากรให้ฟื้นตัวขึ้นตามไปด้วย

นายสตีเวนส์กล่าวในการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎรที่จัดขึ้น ณ กรุงแคนเบอร์ราในวันนี้ว่า “ในอนาคต การลงทุนด้านทรัพยากรจะเฟื่องฟูแตะระดับสูงสุด และจะช่วยเพิ่มสัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในปีหรืออีกสองปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อยหนึ่งศตวรรษ

“แล้วหลังจากนั้นอัตราการลงทุนด้านทรัพยากรก็จะมีแนวโน้มลดลง ขณะที่การส่งออกทรัพยากรจะขยายตัวขึ้นแทน"

ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า เศรษฐกิจโดยรวมนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัยที่ลดลงเล็กน้อยก่อนหน้านี้อาจหยุดปรับตัวลดลง

นายสตีเวนส์กล่าวว่า อนาคตอันสดใสของภาคอุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่ของออสเตรเลียและความสำคัญของภาคดังกล่าวต่อเศรษฐกิจที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9% ของจีดีพีนั้นไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางได้ช่วยส่งเสริมฝ่ายสนับสนุน เมื่อการตัดสินใจที่จะเลื่อนแผนการขยายเหมืองโอลิมปิก แดมของบริษัทบีเอชพี บิลลินตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการทำเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ก่อให้เกิดการโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนในออสเตรเลียเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าการทำเหมืองแร่ของออสเตรเลียได้เฟื่องฟูถึงจุดสูงสุดแล้วหรือไม่

“บรรดาผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ที่ชะลอการลงทุนนั้น เป็นกลุ่มที่มีเงินทุนสูง มีชื่อเสียง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจีดีพีสูงสุดที่ 9% แต่อย่างใด" นายสตีเวนส์กล่าว

นอกจากนี้ นายสตีเวนส์ยังได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณออกไป ในขณะที่ยังมีโอกาสให้ธนาคารกลางออสเตรเลียกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีก ทั้งนี้ ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% เหลือ 3.5% เมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้วสองครั้งในช่วงปลายปี 2554

“ผมไม่คิดว่าเราจะประกาศใช้มาตรการเชิงปริมาณเพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงิน จนกว่าเราจะได้ใช้มาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อันเป็นวิธีการที่ผมคิดว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้ว" นายสตีเวนส์กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ