รายงานของไชน่า คอนสตรัคชัน แบงก์ซึ่งยื่นต่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เย็นวานนี้ระบุว่า รายได้ของธุรกิจธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.27 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สำหรับสัดส่วนเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคาร ณ สิ้นสุดเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 1% ซึ่งลดลง 0.09% เมื่อเทียบกับตัวเลขเมื่อสิ้นปี 2554
--สำนักงานปริวรรตเงินตราจีน (SAFE) ระบุว่า ชาวจีนมีความต้องการมากขึ้นที่จะยังคงถือครองสกุลเงินต่างประเทศ และขายสินทรัพย์สกุลหยวนในเดือนก.ค.
SAFE ระบุว่า บุคคลรายย่อยและสถาบันต่างๆแลกเปลี่ยนเงินสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินหยวนผ่านทางธนาคารพาณิชย์จีนมูลค่า 1.275 แสนล้านดอลลาร์ และเข้าซื้อสกุลเงินต่างประเทศผ่านสถาบันทางการเงินเป็นมูลค่า 1.27 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. เป็นผลให้ยอดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในธนาคารพาณิชย์เกินดุล 500 ล้านดอลลาร์
แม้ว่าธนาคารจีนจะกลับมาเกินดุลด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกครั้งในเดือนก.ค. จากที่ขาดดุล 3.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. แต่ตัวเลขที่เกินดุลนั้นลดลงอย่างมาก จากการเกินดุล 5.1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค., 7.8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค., 4.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. และ 1.94 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.
นายเจ้า ฉิงหมิน นักวิจัยการเงินของไชน่า คอนสตรัคชัน แบงก์ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์จะไม่เกินดุลด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมากอีกต่อไป เนื่องจากตลาดคาดว่าหยวนจะอ่อนค่าในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน