นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ : Cooperative Distribution Center หรือศูนย์ CDC ขึ้นทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและต่อยอดโครงการถูกทั้งแผ่นดินสินค้าสหกรณ์ราคายุติธรรม" ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังร้านสหกรณ์จังหวัดตราด จำกัด เป็นหนึ่งในศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์นำร่อง จำนวน 15 สหกรณ์ ใน 14 จังหวัด สามารถช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาสินค้าที่สูงขึ้นในช่วงวิกฤติที่ผ่านมาได้
"ศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์เป็นหัวใจสำคัญของระบบโลจิสติกส์ (Logistic) ทำให้เกิดการขนส่งและเคลื่อนย้ายสินค้าไปสู่กลุ่มผู้บริโภคได้ตรงตามเวลาด้วยต้นทุนต่ำ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสมาชิกสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้ผลิต มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าสหกรณ์ได้ง่ายขึ้นและได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย" นายณัฐวุฒิ กล่าว
สำหรับร้านสหกรณ์จังหวัดตราด จำกัด ถือว่ามีคุณภาพสูงในการกระจายสินค้าสหกรณ์ไปสู่ผู้แทนจำหน่ายทั้งในจังหวัดตราดและจังหวัดอื่น ๆ อาทิ สหกรณ์ ร้านค้า และห้างสรรพสินค้า มีสินค้าสำคัญที่กระจายไปสู่บริโภค ได้แก่ ข้าวสาร น้ำตาลทราย น้ำมันพืช และน้ำปลา เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าและผู้บริโภคค่อนข้างดี ทำให้ร้านสหกรณ์จังหวัดตราดฯมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นเดือนละกว่า 80 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดตราด และอันดับ 1 ของร้านสหกรณ์ในประเทศไทย สามารถแข่งขันกับตลาดโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ที่ตั้งอยู่ใกล้กันได้ นอกจากนี้ ศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์แห่งนี้ ได้สร้างความร่วมมือทางการค้าและเครือข่ายสหกรณ์กับสหกรณ์การ เกษตร พิมาย จังหวัดนครราชสีมา สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด จังหวัดตรัง สหกรณ์การเกษตรมหาชนะชัย จำกัด จังหวัดยโสธร สหกรณ์การเกษตรนครพนม จำกัด จังหวัดนครพนม ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรสระบุรี สหกรณ์การเกษตรเมืองตราด จำกัด จังหวัดตราด และร้านสหกรณ์โรงพยาบาลตราด ซึ่งอนาคตคาดว่าจะมีการขยายธุรกิจและกระจายสินค้าสหกรณ์ไปสู่สหกรณ์อื่น ๆ ทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาชิกสหกรณ์และผู้บริโภคชาวไทยและกัมพูชายังสามารถซื้อสินค้าสหกรณ์ที่มีคุณภาพ ในราคายุติธรรม ขณะเดียวกันศูนย์กระจายสินค้ายังเป็นช่องทางจำหน่ายและรองรับสินค้าต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สหกรณ์สามารถเพิ่มมูลค่าในธุรกิจได้สูงขึ้น อีกทั้งยังเกิดการพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาดสินค้าสหกรณ์ และผู้บริโภคมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าสหกรณ์อย่างกว้างขวางด้วย
ขณะที่ร้านสหกรณ์จังหวัดตราด จำกัด ได้มีแผนที่จะขยายขนาดธุรกิจและขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ตารางเมตร จากร้านค้าเดิมที่มี ประมาณ 800 ตารางเมตร ให้มีธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ศูนย์อาหาร แหล่งบันเทิง ธนาคาร ร้านค้าต่างๆ แบบครบวงจร และเป็นศูนย์รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรแบบครบวงจรด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกกว่า 12,115 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมให้บริการประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่เข้ามาในจังหวัดตราดเป็นจำนวนมาก เตรียม พร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี (AEC) ในปี 2558 ซึ่งคาดว่า จะมีการซื้อขายคึกคักมากขึ้น โดยภายใน 5 ปี ร้านสหกรณ์จังหวัดตราดฯตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายและรายได้สูงขึ้นเป็น 1.5 เท่า ซึ่งปีที่ผ่านมา มียอดขาย จำนวน 982.08 ล้านบาท มีกำไรกว่า 33.41 ล้านบาท