สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศที่ประสบปัญหาในยูโรโซน นอกจากนี้ สกุลเงินสกุลยูโรยังได้แรงหนุนจากข่าวสเปนประมูลขายตั๋วเงินคลังได้สูงกว่าเป้าหมาย ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลง
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.54% แตะที่ 1.2567 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2499 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.22% แตะที่ 1.5826 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5792 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง 0.24% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.530 เยน จากระดับ 78.720 เยน และดิ่งลง 0.53% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9554 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9605 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.09% แตะที่ 1.0378 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0369 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนแรงลง 0.52% แตะที่ 0.8041 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8083 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินสกุลยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากสเปนประมูลขายตั๋วเงินคลังได้สูงกว่าเป้าหมายสูงสุด โดยกระทรวงการคลังของสเปนประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 และ 6 เดือน ได้รวมกัน 3.6 พันล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายสูงสุดที่ระดับ 3.5 พันล้านยูโร
ขณะที่อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนอยู่ที่ 0.946% ซึ่งลดลงจากระดับ 2.434% ในการประมูลครั้งก่อนเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ส่วนตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนมีอัตราผลตอบแทนที่ 2.026% ซึ่งปรับลงจาก 3.691% ในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากนายจอร์จ อัสมุสเซน สมาชิกสภาบริหารของอีซีบีกล่าวว่า อีซีบีจะดำเนินการซื้อพันธบัตรรัฐบาลควบคู่กับแผนการช่วยเหลือของยูโรโซน ซึ่งได้แก่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ด้านนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า อีซีบีอาจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองในเร็วๆนี้ และอาจพิจารณามาตรการพิเศษอื่นๆเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศในยูโรโซนที่ประสบปัญหาทางการเงิน โดยระบุว่มาตรการดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด และหลังจากที่ประเทศที่ประสบปัญหาได้ยื่นขอความช่วยเหลือแล้วเท่านั้น
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 60.6 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย.2554 จากระดับ 65.4 จุดในเดือนก.ค.
ลินน์ ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดกล่าวว่า ผู้บริโภคมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจและการจ้างงาน
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 15.00 น.ตามเวลาไทย อิตาลีจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. และในเวลา 16.00 น.ตามเวลาไทย อิตาลีจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพีไตรมาส 2 และจากนั้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยดัชนียอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ค.