กระทรวงพาณิชย์ เผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ก.ค.55 การส่งออกมีมูลค่า 19,544.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 4.46% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 21,290.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.73% ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,746 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ส่งผลให้ภาวะการค้าต่างประเทศในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.55) การส่งออกมีมูลค่ารวม 131,809 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 0.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 143,895.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน ขาดดุลการค้าทั้งสิ้น 12,086.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจัยที่ส่งผลให้การส่งออกในเดือน ก.ค.55 ลดลงมาจากสภาวะเศรษฐกิจยุโรปและการลุกลามของปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องและสร้างความวิตกกังวลต่อการผลิตและจำหน่ายสินค้าในภาคเศรษฐกิจจริงในหลายประเทศ ทำให้มีการนำเข้าสินค้าซึ่งเป็นวัตถุดิบการผลิตจากไทยลดลง เช่น ยางพารา, ผลิตภัณฑ์ยาง, แผงวงจรไฟฟ้า, เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์
โดยภาพรวมหมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรลดลง 6.6% โดยสินค้าส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว(-28.5%) ยางพารา(-33.8%) กุ้งแช่แข็งและแปรรูป(-17.8%) ส่วนสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง(+8.1%) อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูปไม่รวมกุ้ง(+14.8%) ผักและผลไม้ (+65.5%) ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป(+3.8%) น้ำตาล(+21%)
ขณะที่ภาพรวมหมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ลดลง 4.3 % โดยสินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์(-15.4%) เครื่องใช้ไฟฟ้า(-3.4%) สิ่งทอ(-14.3%) อัญมณีและเครื่องประดับ(-37.3%) ผลิตภัณฑ์ยาง(-0.9%) ส่วนสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ(+22.8%) วัสดุก่อสร้าง(+15.7%) สิ่งพิมพ์ กระดาษและบรรจุภัณฑ์(+14.5%) เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน(+0.6%) เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์(+15.7%) อาหารสัตว์เลี้ยง(+32.9%)
สำหรับการส่งออกเป็นรายตลาดขยายตัวลดลงในทุกตลาด ยกเว้นตลาดศักยภาพระดับรอง โดยตลาดหลักภาพรวมลดลง 7.8% ได้แก่ ญี่ปุ่น (-3.5%) สหภาพยุโรปสมาชิกเดิม 15 ประเทศ(-21.4%) สหรัฐอเมริกา(+2.3%) ตลาดศักยภาพสูงภาพรวมลดลง 3.1% ได้แก่ อาเซียน(-2.6%) จีน(-7.5%) เอเชียใต้(-9.9%) อินเดีย(-9.2%) ไต้หวัน(-15.7%) ขณะที่ตลาดศักยภาพระดับรองภาพรวมเพิ่มขึ้น 2.9% ได้แก่ ตะวันออกกลาง(+18.2%) ลาตินอเมริกา(+18.4%) รัสเซียและCIS(+2.1%)
ขณะที่การนำเข้าในเดือน ก.ค.55 เพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าทุน(+35.80%) ได้แก่ ประเภทเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ(+39.82%) เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ(+105.75%), หมวดวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป(+2.70%) ประเภทเคมีภัณฑ์(+10.37%) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์(+30.30%), หมวดสินค้าอุปโภค/บริโภค (+13.13%) ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน(+15.58%) ผัก ผลไม้และของปรุงแต่ง (+32.01%) และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง(+65.38%) ได้แก่ ประเภทส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์(+74.48%) และรถยนต์นั่ง(+38.25%)