นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ปตท.(PTT) คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะส่วนตัวเชื่อว่าราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/55 โดยขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมถือว่าขยายตัวได้ดี สะท้อนจากยอดขายรถยนต์ที่ยังเติบโตดี รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ
"เชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว Double Deep คงไม่มีแล้ว ราคาน้ำมันเริ่ม Pick up ดังนั้นครึ่งหลังน่าจะยังแข็งแรง...โดยปัจจัยพื้นฐาน Q3 และ Q4 จะดีกว่า Q1 และ Q2 ปีนี้คงไม่น่าจะเกิดน้ำท่วม ไม่เกิดเหตุฉุกเฉิน ภาคธุรกิจไทยก็ไปได้ดี" นายสุรงค์ กล่าว
นายสุรงค์ กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่ม ปตท.จะยังไม่เข้าไปซื้อกิจการขนาดใหญ่เพิ่มเติมอีก หลังจากที่ บมจ.ปตท.สผ.(PTTEP)ได้เข้าซื้อกิจการ Cove Energy และ PTT จะทำคำเสนอซื้อหุ้นในเหมืองถ่านหิน Sakari ในอินโดนีเซีย เพื่อเข้าถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50% จากปัจจุบัน 45.3% ซึ่งคาดว่าขั้นตอนต่าง ๆ จะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 3/55 หรือต้นไตรมาส 4/55
พร้อมยืนยันว่า บริษัทฯ มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะเพิ่มทุนให้ PTTEP ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีกระแสเงินสดราว 6 หมื่นล้านบาท และมีแผนจะระดมเงินในช่วงครึ่งปีหลังอีก 2-3 หมื่นล้านบาท การที่ PTTEP เข้าซื้อกิจการ Cove Energy ถือเป็นยุทธศาสตร์ทางธุรกิจทั้งในแง่การเพิ่มปริมาณสำรองความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และ Cove Energy ถือเป็น Model ธุรกิจที่ดี
ขณะที่การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งถ่านหินเพื่อให้มีหุ้นเกิน 50% นั้นจะทำให้เกิดความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง เพราะการทำคำเสนอซื้อหุ้น(tender offer)คงจะไม่ได้หุ้นมาทั้ง 100% โดยแหล่งถ่านหินดังกล่าวจะเป็นยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ได้ในอนาคต เนื่องจากแนวโน้มทรัพยากรที่ยังมีอยู่และยังมีความต้องการใช้ในประเทศพัฒนาแล้วอีกมาก