นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ยังไม่แน่ใจว่าในปีนี้จะสามารถเปิดประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่(IPP) ได้หรือไม่ โดยกฎเกณฑ์การประมูลอยู่ที่คณะกรรมการกำกับกิจพลังงาน(กกพ.) เป็นผู้ดูแล ซึ่งจะต้องนำหลายปัจจัยเข้ามาพิจารณา เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม และราคาเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ตามแผนจะต้องประมูล IPP ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติประมาณ 5,400 เมกะวัตต์ ซึ่งคงไม่เปิดประมูลรอบเดียว แต่จะทยอยเปิดตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนการส่งเสริมโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ตามเป้าหมายกระทรวงพลังงานต้องการให้เกิดขึ้น 2,000 เมกะวัตต์ กระทรวงฯ กำลังพิจารณาว่า จะจัดการอย่างไรกับผู้ที่มีการยื่นข้อเสนอมาเดิมแต่ยังไม่มีการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งหากพบว่า มีรายใดครบกำหนดระยะเวลาที่จะต้องขายไฟฟ้าตามสัญญา(COD ) แล้ว 1 ปี แต่ยังไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้จริงก็จะต้องถูกยึดใบอนุญาตและนำมาเปิดให้รายใหม่เข้ามาแข่งขัน โดยรูปแบบขณะนี้กำลังพิจารณาว่ จะเป็นการประกาศโดยใช้รูปแบบการให้ค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม หรือ แอดเดอร์เช่นปัจจุบัน หรือเปิดประมูลแข่งขัน โดยยึดราคาต่ำสุด หรือให้รูปแบบอุดหนุนแบบ Feed intariff ซึ่งกำลังดูความชัดเจนทั้งหมดอีกครั้ง
ด้านนายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) กล่าวว่า บริษัทพร้อมจะเข้าประมูล IPP โดยเตรียมพื้นที่ไว้ 3 แห่ง และเห็นด้วยที่จะทยอยเปิดประมูล IPP เพราะตามแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว โรงไฟฟ้า IPP จะต้องจ่ายไฟเข้าระบบอีก 6 ปีข้างหน้า ซึ่งหากเปิดประมูลทั้งหมดในครั้งเดียว และไม่มีปัจจัยเรื่องการคำนวณการก่อสร้างมาอยู่ในสูตรการแข่งขัน จะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการลงทุนของผู้ประกอบการ
ส่วนเรื่องการปรับรูปแบบการส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ หากให้วงเงินอุดหนุนต่ำเกินไป หรือต่ำกว่า 7-8 บาทต่อหน่วย จะกระทบให้ผู้ประกอบการไม่สามารถลงทุนได้ เพราะจะมีผลขาดทุน จึงหวังว่า ภาครัฐจะพิจารณาหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม