นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม เผยรัฐบาลมีแนวคิดที่จะใช้พื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บริเวณโดยรอบท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย เป็นสถานที่ตั้งศูนย์ราชการแห่งที่ 2 เพื่อรองรับหน่วยงานราชการที่ตั้งตามแนวถนนราชดำเนิน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ
ขณะเดียวกันจะปรับปรุงถนนราชดำเนินให้เป็นถนนประวัติศาสตร์และท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังพิจารณาใช้พื้นที่บริเวณสถานีแม่น้ำของการรถไฟแห่งประเทศไทย และพื้นที่โรงงานยาสูบอีกด้วย โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม ส่วนกระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะทำงานศึกษาสถานที่เพื่อย้ายกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน
ส่วนแผนแม่บทการใช้ประโยชน์พื้นที่ของ กทท.ที่ได้ศึกษาแล้วนั้น ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามงานมาแล้ว 2 ครั้ง และเร็วๆ นี้จะได้ขอนัดหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาแนวทางการเดินงานต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้พัฒนาพื้นที่ 3 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแนวตั้งหรือคอนโดให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เดิม 2.เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ท่าเรือกรุงเทพด้วยการลดการใช้พื้นที่โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ และ 3.พัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว
ด้านเรือตรีวิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า แผนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของ กทท.หยุดชะงักไป ที่ผ่านมา กทท.ได้เสนอแผนการพัฒนาพื้นที่ว่างบริเวณด้านข้างอาคารสำนักงานใหญ่ กทท.ขนาดพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ มายังกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยจะพัฒนาเป็นอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี ปัจจุบันใช้ประโยชน์เป็นลานจอดรถบรรทุก ซึ่งแนวทางการดำเนินงานคงต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการพิจารณา
ส่วนเรื่องการใช้พื้นที่ของ กทท.รองรับศูนย์ราชการแห่งที่ 2 นั้น ผลการศึกษาที่ผ่านมามีแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่ทุกแห่งแล้ว ไม่รวมศูนย์ราชการ หากรัฐบาลมีนโยบายคงต้องพิจารณาความเหมาะสมต่อไป เบื้องต้นเห็นว่าพื้นที่รอบท่าเรือกรุงเทพเหมาะสมสำหรับการเป็นโรงงานประกอบสินค้าเพื่อธุรกิจนำเข้าส่งออก ซึ่งการตั้งโรงงานใกล้ท่าเรือจะช่วยลดต้นทุน และอำนวยความสะดวกของภาคเอกชน