นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรและองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เดินทางตามเส้นทางขนส่งสินค้าเกษตร R8 /R12 เพื่อตรวจติดตามกระบวนการและขั้นตอนการขนถ่ายผลไม้ไทย ผ่านทางด่านตรวจพืชจังหวัดมุกดาหารและนครพนม และรับฟังปัญหาอุปสรรคเพื่อหาแนวทางอำนวยความสะดวกการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ระหว่างวันที่ 28 - 30 ส.ค. 55 จากนั้นมีกำหนดการเดินทางไปดูงานตลาดค้าส่งผัก ผลไม้ ของประเทศเวียดนาม เยี่ยมชมด่านโหย่วอี้กวาน เขตผิงเสียง ประเทศจีน และจะร่วมประชุมกับตัวแทนจำหน่ายนม ไทย-เดนมาร์กและผลิตภัณฑ์ประจำประเทศเวียดนามและจีน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกและหาแนวทางการส่งเสริมสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของอ.ส.ค.ไปยังเวียดนามและจีน ในระหว่างวันที่ 31 ส.ค. - 3 ก.ย.55
การเดินทางในครั้งนี้ จะเดินทางโดยรถยนต์ไปยังด่านตรวจพืชจังหวัดมุกดาหาร และนครพนม เพื่อดูกระบวนการและขั้นตอนในการขนถ่ายผลไม้ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นเดินทางผ่านด่านประเทศลาว ไปตามเส้นทาง R8 / R12 ผ่านประเทศลาวไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งจะใช้การเดินทางในครั้งนี้ศึกษาเส้นทางการลำเลียงสินค้าเกษตรจากประเทศไทยไปเวียดนามและจีน เช่น ผลไม้ โคเนื้อ โคนมและผลิตภัณฑ์ สำหรับที่ประเทศเวียดนามจะประชุมกับตัวแทนจำหน่ายนม ไทย-เดนมาร์กและผลิตภัณฑ์ประจำประเทศเวียดนาม ตลอดจนร่วมหารือกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย เพื่อรับทราบข้อมูลโดยตรง รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำมาสู่การกระจายสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อน นม และผลิตภัณฑ์ เข้าสู่ประเทศจีนผ่านเวียดนาม
ในส่วนของการเดินทางไปประเทศจีน คณะจะเยี่ยมชมด่านโหย่วอี้กวานใน เขตผิงเสียงของจีน เพื่อดูกระบวนการขนส่งผลไม้เมืองร้อนจากเวียดนามเข้าสู่จีน และหารือข้อมูลการขนส่ง รวมถึงอุปนิสัยการบริโภคผลไม้ของคนจีนกับผู้นำเข้าผลไม้จากไทย จากนั้นจะเดินทางไปศึกษาดูงานตลาดค้าส่งผัก ผลไม้ Hi-Green และ บริษัท Chin-ASEAN Plaza พร้อมทั้งประชุมร่วมกับตัวแทนจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์กและผลิตภัณฑ์ประจำประเทศจีน เกี่ยวกับช่องทางการขยายตลาดนม ตลอดจนกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดนมและผลิตภัณฑ์นมในประเทศจีน
นอกจากนี้ยังมีกำหนดการเดินทางไปดูงานบริษัท Guangdong Agribusiness Group Corporation (GDA) เพื่อเยี่ยมชมกิจการโรงงานแปรรูปนม sterilize ของกลุ่มบริษัท GDA และพบปะกับผู้บริหารของบริษัท ซึ่งการเดินทางเยือนเวียดนามและจีนในครั้งนี้จะทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะกรมวิชาการเกษตรและอ.ส.ค. ได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการกระจายสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนการดำเนินงานในช่วงหลังการเก็บเกี่ยวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจะส่งผลโดยตรงต่อการระบายสินค้าเกษตร เช่น ผลไม้และนมของไทย ในช่วงที่มีผลผลิตและปริมาณออกสู่ตลาดมากเกินความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาผลผลิตที่ล้นตลาดของเกษตรกรและยังเป็นการรักษาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำอีกด้วย