เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เผยผลศึกษาและวิเคราะห์ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทยประจำปี 2555 พบส่วนใหญ่ยังใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และมีแผนจะขยายการลงทุน รวมทั้งเชื่อมั่นเศรษฐกิจในปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีเหตุผลที่จะรักษาระดับการลงทุนหรือขยายกิจการในไทย ซึ่งนักลงทุนให้ความสำคัญกับสิทธิประโยชน์เป็นปัจจัยหลัก
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการ BOI เผยผลการศึกษาและวิเคราะห์ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทยประจำปี 2555 ซึ่งมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสารสนเทศระหว่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการส่งแบบสอบถามให้กับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งกลุ่มที่ได้รับและไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอรวม 3,228 ราย พบว่า มีการส่งแบบสอบถามกลับมาจำนวน 408 ราย และอีกกว่า 30 รายที่ได้ดำเนินการสัมภาษณ์เชิงลึก โดยพบว่า ระหว่างปี 2555-2556 นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ร้อยละ 65.20 ยังคงรักษาระดับการลงทุนที่มีในประเทศไทย และอีกร้อยละ 31.62 มีแผนจะขยายกิจการในปี 2555 นี้
เหตุผลหลักที่ใช้ในการตัดสินใจในทิศทางดังกล่าว คือ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจาก BOI มากที่สุดถึงร้อยละ 73.14 รองลงมาร้อยละ 62.77 เชื่อมั่นว่าไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ และอันดับสามคือร้อยละ 42.82 เชื่อมั่นว่าไทยมีแรงงานเพียงพอ
นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยกับประเทศคู่แข่ง 9 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา สปป.ลาว สหภาพพม่า และเวียดนาม พบว่า สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนของ BOI, การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์, อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล, กฎหมายศุลกากร, ความสะดวกในการประกอบธุรกิจ, การเข้าถึงแหล่งเงินกู้, ระบบขนส่ง, สาธารณูปโภคของไทยเหนือกว่าคู่แข่งทั้ง 9 ประเทศ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ พบว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในบางประเทศและปัญหาภัยทางธรรมชาติไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของนักลงทุน โดยยังเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี 2555 นี้ และเชื่อว่าจะมีรายได้และกำไรเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน
เลขาธิการ BOI กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาประกอบกับการจัดสัมมนาในวันนี้นอกจากเพื่อชี้แจงถึงผลวิเคราะห์ที่ได้จากโครงการศึกษา การจัดสัมมนาในวันนี้ยังเป็นเวทีที่สำคัญเวทีหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนให้ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอื่นๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผลการศึกษาที่ได้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของสำนักงานฯ ทำให้สำนักงานฯ สามารถให้บริการที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และสนองความต้องการของผู้ประกอบการได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ BOI จะนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ตลอดจนการกำหนดมาตรการสนับสนุนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ไทยมีศักยภาพและสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นและสนใจที่จะดำเนินธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง