นายเสิ่น ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า จีนและเยอรมนีควรทำงานร่วมกันในการส่งเสริมการเจรจาหาทางออกที่เหมาะสมสำหรับความขัดแย้งในปัจจุบันเกี่ยวกับภาษีนำเข้าแผงพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างจีนและสหภาพยุโรป (อียู)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนได้เรียกร้องอียูให้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายและดำเนินการตามคำมั่นสัญญาในการเลี่ยงการก่อกำแพงการค้ารูปแบบใหม่ที่ให้ไว้ในที่ประชุมสุดยอดจี-20 ที่เมืองลอส คาบอส และระบุว่าอียูไม่ควรดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าใดๆต่อสินค้าของจีน
เมื่อเดือนก.ค. บริษัทโซลาร์เวิลด์ของเยอรมนีและผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์รายอื่นๆของยุโรปได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ในประเด็นการต่อต้านการทุ่มตลาด โดยอีซีจะตัดสินใจภายใน 45 วันว่าจะดำเนินการสอบสวนหรือไม่ หากการสอบสวนเริ่มขึ้น นี่จะป็นความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหญ่ที่สุดในแง่ปริมาณการค้าที่เกี่ยวข้องกับจีน
นายเสิ่นกล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน การใช้มาตรการทางการค้าอย่างไม่ถูกต้องไม่ได้ช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการค้าต่างๆ แต่ยังจะสร้างความเสียหายแก่ทั้งสองฝ่ายและต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
นายเสิ่นเน้นย้ำว่าจีนได้เรียกร้องและสนับสนุนการหารือและความร่วมมือภายในภาคอุตสาหกรรมมาโดยตลอด เพื่อเจรจาและแก้ไขประเด็นต่างๆในด้านการพัฒนาทางอุตสาหกรรมและการค้าทวิภาคีเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนไปยังอียูมีมูลค่าทั้งสิ้น 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2554 โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่าข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุ่มตลาดไม่มีมูลความจริง โดยชี้ว่ามาตรการกีดกันทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของยุโรป