เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเบอร์นันเก้ได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อหนุนการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนของสหรัฐ
เบอร์นันเก้กล่าวว่า ภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐถือเป็นสิ่งที่ "น่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง" และเฟดจะจัดหาการสนับสนุนด้านนโยบายเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น
"อัตราการขยายตัวของตลาดแรงงานเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก" เบอร์นันเก้กล่าว และกล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราว่างงานของสหรัฐยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายระยะยาวของเฟดอยู่กว่า 2%
ทั้งนี้ รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า อัตราว่างงานเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 8.3% จากเดือนก่อนหน้า
เบอร์นันเก้ยังกล่าวด้วยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่เป็นที่น่าพอใจ นอกเสียจากว่าเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวรวดเร็วกว่าในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่อัตราว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าที่เฟดกำหนดไว้
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เบอร์นันเก้ได้กล่าวปกป้องนโยบายการเงินที่เฟดนำมาใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและโครงการซื้อสินทรัพย์รอบที่สอง ซึ่งนโยบายเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเบอร์นันเก้กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่านโยบายเหล่านี้ช่วยให้สหรัฐมีการจ้างงานมากกว่า 2 ล้านคน
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการของเฟด โดยเขากล่าวว่าต้นทุนจากการดำเนินนโยบายพิเศษที่เฟดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ซึ่งรวมถึงมาตรการ QE นั้น เป็นการดำเนินการที่สามารถควบคุมได้ พร้อมกับย้ำว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด "ไม่ปฏิเสธที่จะใช้นโยบายดังกล่าวต่อไป หากเศรษฐกิจไม่กระเตื้องขึ้น
ถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นอื่นๆดีดตัวขึ้นถ้วนหน้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 90.13 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 13,090.84 จุด ขณะที่ดัชนี ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวขึ้น 0.5% ปิดที่ 266.23 จุด นอกจากนี้ ยังช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 96.47 ดอลลาร์/บาร์เรล และหนุนสัญญาทองคำ COMEX ทะยานขึ้น 30.5 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 1,687.6 ดอลลาร์/ออนซ์
จิม โอ ซัลลิแวน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไฮ ฟรีเควนซี อีโคโนมิคส์ กล่าวว่า “การกล่าวุนทรพจน์ที่แจ็คสัน โฮล ของนายเบอร์นันเก้เป็นการส่งสัญญาณมาตรการผ่อนคลายอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ระบุโดยตรงดังเช่นที่พวกเราคาดหวังไว้ก็ตาม"
ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้นั้น มาจากความคาดหวังที่ว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 ในไม่ช้านี้ แม้ว่าเฟดถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนับตั้งแต่ตัดสินใจประกาศใช้ QE2 ในเดือนพ.ย.ปี 2553 ก็ตาม
โดยนายโรเบิร์ต รูบิน อดีตรมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า มาตรการ QE แทบจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังกล่าวด้วยว่าการออกมาตรการ QE เพิ่มเติมจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาด เนื่องจากนักลงทุนจะขาดความเชื่อมั่นต่อความพยายามที่จะควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของเฟด และไม่มั่นใจในคำมั่นสัญญาของรัฐบาลสหรัฐว่าจะสามารถควบคุมการขาดดุลได้