ธปท.เชื่อกนง.ถกการชะลอตัวศก.โลกกระทบไทย-ความกังวลส่งผ่านนโยบายการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 3, 2012 15:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางชญาวดี ชัยอนันต์ เศรษฐกรฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวในการสัมมนา"บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยในการดำเนินนโยบายการเงิน"ว่า คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันที่ 5 ก.ย.จะหารือถึงผลกระทบจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น

รวมถึงความกังวลในการส่งผ่านนโยบายการเงิน เพราะขณะนี้ยังมีความกังวลว่าหากมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว ธนาคารพาณิชย์จะลดอัตราดอกเบี้ยลงตามไปด้วยหรือไม่ เพราะการลดดอกเบี้ยเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ หากการแข่งขันในระบบธนาคารพาณิชย์ยังสูงและไม่มีการลดดอกเบี้ยตาม ก็จะทำให้การลดดอกเบี้ยนโยบายอาจจะไม่มีผลดีต่อเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ คาดว่า กนง.เตรียมทบทวนคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยในปี 55-56 หลังจากเมื่อเดือน ก.ค.55 ธปท.ปรับประมาณการจีดีพีปี 55 เป็น 5.7% และปี 56 ที่ 5% แต่ขณะนี้คงจะต้องมีปรับลดลงเล็กน้อย หลังจากเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาและเดือน ส.ค.เห็นการส่งออกชะลอตัวและกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ดังนั้น คาดการณ์จีดีพีของปี 56 ก็น่าจะต่ำลงจาก 5%

นอกจากนั้น กนง.ต้องพิจารณาถึงภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะส่งผ่านมาถึงเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะการผลิตเพื่อการส่งออก อาจจะทำให้รายได้ของการจ้างงานลดลง โดยเฉพาะรายได้ของภาคการผลิตเพื่อส่งออกจะมีรายรับลดลง ส่งผลต่อการบริโภคในประเทศให้ลดลงไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท.กังวลแม้ว่าจะยังไม่เกิดขึ้น

ความเข้มแข็งของอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้พึ่งพาการบริโภคและการลงทุน และหวังว่ารัฐบาลจะเร่งการใช้จ่ายงบประมาณลงทุน เพราะขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ ทำให้การใช้จ่ายด้านอื่นไม่ได้เร่งตัวขึ้นตามที่ควรจะเป็น ประกอบกับ ธปท.ประเมินว่าแม้งบประมาณบริหารจัดการน้ำจะสูงถึง 3.5 แสนล้านบาท และประมาณการว่าในปีนี้จะมีการใช้จ่ายแค่ 2.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น และจะเร่งตัวขึ้นในปี 56

สำหรับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำและการขาดแคลนแรงงานส่งผลให้ปัจจุบันไม่เห็นแรงกดดันการเร่งตัวของเงินเฟ้อ ธปท.ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปีนี้จาก 3.5% เป็น 2.9% ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอลงกว่าที่คาดไว้ ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อที่มาจากเศรษฐกิจลดลง ส่วนในปี 56 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นและรัฐบาลจะกลับมาใช้จ่ายงบประมาณ ธปท.ประมาณการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับขึ้นมาที่ 3.4%

"นโยบายการเงินยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจถ้าสามารถทำได้ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมีมากขึ้น ซึ่งก็เชื่อว่า กนง.คงไม่นิ่งดูดาย โดยเฉพาะที่ภาวะที่รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในแดนลบ และเป็นประเทศที่ต่ำสุดในเอเชีย ดังนั้นถือว่าไทยมีต้นทุนในการกู้ยืมเพื่อบริโภคและลงทุนที่ต่ำ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนไม่หวือหวา แต่ทรง ๆ ตัว โดยดูจากดัชนีค่าเงินในภาพรวมยังอ่อนกว่าประเทศอื่น แสดงให้เห็นความสามารถการแข่งขันด้านราคาของเรายังดีกว่าคู่แข่ง"นางชญาวดี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ