นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และเป้าหมายการส่งออกไทยในปี 55 ร่วมกับผู้ประกอบการ 40 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมถึงความจำเป็นในการปรับเป้าหมายการส่งออกจากเดิมที่ตั้งไว้ 15% พบว่ามีข้อมูลจากทั้ง 2 ด้าน คือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ห่วงว่าจะไม่สามารถทำให้การส่งออกปีนี้โตได้ตามกรอบที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ เช่น กลุ่มสิ่งทอ และผ้าผืน ขณะที่อีกด้านยังมองว่าอุตสาหกรรมของตัวเองยังสามารถเติบโตได้เพิ่มขึ้นในปีนี้ เช่น กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ขอฟังข้อมูลการส่งออกเพิ่มเติมจากทูตพาณิชย์ของแต่ละประเทศที่จะเดินทางมาร่วมประชุมในสัปดาห์หน้าก่อน เพื่อประมวลสถานการณ์การส่งออกในภาพรวมปีนี้อีกครั้ง โดยคาดว่ากระทรวงพาณิชย์จะสามารถประกาศเป้าหมายการส่งออกที่ชัดเจนของปีนี้ได้หลังจากกลางเดือน ก.ย.ไปแล้ว
นายภูมิ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้ประเมินตัวเลขการส่งออกที่เป็นไปได้ 3 กรณี คือ ที่ 5%, 7% และ 9% โดยหากตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค.55 ส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 20,380 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้ส่งออกทั้งปีขยายตัวได้ 5% หากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 21,270 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกทั้งปีจะขยายตัวได้ 7% และหากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 22,160 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกทั้งปีจะขยายตัวได้ 9% ส่วนตัวเลขจริงจะเป็นไปตามที่ประเมินหรือไม่นั้น คงยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะอาจจะมากหรือน้อยกว่าก็ได้ แต่เบื้องต้นคงจะโตต่ำกว่า 15%
"การจะปรับเหลือ 5 เหลือ 7 เหลือ 9 หรือไม่ถึง 10% ก็คงต้องรอฟังข้อมูลจากการประชุมทูตพาณิชย์ในสัปดาห์หน้าก่อน ขอทราบข้อมูลตลาดต่างประเทศอีกครั้ง รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้วย ซึ่งคาดว่ากลางเดือนกันยายน กระทรวงพาณิชย์จะประกาศเป้าส่งออกที่ชัดเจนได้...ตอนนี้เราขอเอาตัวเลขจาก 3 ส่วน(40 กลุ่มอุตสาหกรรม-ทูตพาณิชย์-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค) มาประเมินเพื่อหาตัวเลขที่ใกล้เคียงและเป็นจริงที่สุด" รมช.พาณิชย์ กล่าว
นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังได้เสนอให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือในการผลักดันการส่งออกอย่างเร่งด่วนในช่วง 4 เดือนที่เหลือ โดยเน้นตลาดอาเซียน และตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากสามารถทำตลาดได้ทันที ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออกได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว