นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า การจัดตั้งระบบกำกับดูแลด้านการธนาคารซึ่งครอบคลุมทั่วยุโรปนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในปีหน้า
ทั้งนี้ นายชอยเบิลมองว่า ระบบดังกล่าวจะยังไม่สามารถจัดตั้งขึ้นได้ในหน้า และไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นจริงตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความผันผวนและความวิตกกังวลในตลาดการเงิน ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวได้บั่นทอนความคาดหวังในตลาดที่ว่า ธนาคารที่เผชิญแรงกดดันด้านการเงินจะสามารถรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินของยุโรป (ESM) ได้โดยตรง
การแสดงความคิดเห็นมีขึ้นหลังจากมีรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) จะเสนอให้มีการจัดตั้งระบบการกำกับดูแลด้านการธนาคารแบบใหม่ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ และมีขึ้นหลังจากนายมิเชล บาร์นิเยร์ คณะกรรมาธิการด้านตลาดต่างประเทศของอีซีกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาคาดว่าระบบการกำกับดูแลด้านการธนาคารในระยะแรกจะเริ่มขึ้นในเดือนม.ค.ปีหน้า และคาดว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือธนาคารในยูโรโซนได้ในช่วงต้นปี 2557
ความเคลื่อนไหวของนายชอยเบิลได้บั่นทอนความคาดหวังของตลาดการเงินที่ต้องการเห็นภาคธนาคารในยุโรปได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับข่าวในด้านลบอยู่ก่อนแล้วจากข่าวที่ว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตในการทำธุรกรรมด้านธนาคารให้กับกองทุน ESM ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของยูโรโซน
ทั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของยุโรปได้ออกมากสนับสนุนว่าหากกองทุน ESM ได้ใบอนุญาตทำธุรกิจธนาคารก็จะทำให้ ESM สามารถเข้าถึงเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้กองทุน ESM ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว เพราะเกรงว่า ESM จะได้รับสิทธิในการกู้เงินจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของอีซีบี ซึ่งจะเป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรป (อียู)