บมจ.ไทยโพลีคอนส์(TPOLY) มั่นใจว่ารายได้ของบริษัทในปี 55 จะทำได้ตามเป้าหมาย 3 พันล้านบาท แต่กำไรยังต้องลุ้น เพราะช่วงต้นปีอัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือราว 1% กว่า บริษัทจึงมีเป้าหมายที่จะผลักดันอัตราให้ขึ้นไปอยู่ที่ 3% ให้ได้ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีงานรับเหมาก่อสร้างในมือ(backlog)แล้ว 3.8 พันล้านบาท และมีงานใหม่ที่รอเซ็นสัญญาอีก 800 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อีก 1.7 พันล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ในช่วงเดือนต.ค.นี้บริษัทจะเปิดพรีเซลล์โครงการทาวน์โฮมในเดือนต.ค.นี้ และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.55 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 4 โรงคาดว่าจะรับรู้รายได้เต็มที่ครบทั้งหมดภายในปี 58
นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ TPOLY กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 3 พันล้านบาท เติบโตจากปี 54 ที่มีรายได้รวม 2.5 พันล้าน จากธุรกิจโรงไฟฟ้า และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยครึ่งปีแรกทำรายได้ไปแล้ว 1.3 พันล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะทำได้อีก 1.7 พันล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย รวมทั้งตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิที่ 3% ดีขึ้นจากปี 54 ที่อยู่ในระดับ 1.9% เป็นผลจากการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น แม้ว่าต้นปีจะยังทำไม่ได้ แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะดีขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมี backlog อยู่ที่ 3.8 พันล้านบาทคาดว่าจะรับรู้ในปีนี้กว่า 1 พันล้านบาท และมีงานที่ชนะประมูลแล้วแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอีก 800 ล้านบาท แบ่งตามประเภทของงานก่อสร้าง ประกอบด้วย งานโรงพยาบาล 33% งานคอนโดมิเนียมและศูนย์การค้า 25% งานโรงงาน โรงไฟฟ้า และปิโตรเคมี 22% งานอาคารทั่วไป 11% งานสถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัย 5% และงานสาธารณูปโภคและงานปรับปรุง 4%
สำหรับงานประมูลที่เหลือของปีนี้จะมีอีกราว 2.5 พันล้านบาท และคาดว่าบริษัทจะได้งาน 1.7 พันล้านบาท
นายเจริญ กล่าวว่า ธุรกิจพลังงานและอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วค่อนข้างมาก ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นไป โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มที่จากโครงการแรกใน จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เดือน ม.ค.56 ส่วนโครงการที่ 2 และ 3 คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 57 และจะรับรู้รายได้ครบทั้ง 4 โครงการภายในปี 58 ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคง
ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทพัฒนาโครงการโมเดิร์นทาวน์โฮม ถ.รามอินทรา ในชื่อโครงการ กรีนิช รามอินทรา มูลค่าโครงการ 700-750 ล้านบาท จะเปิดขายพรีเซลล์ ในวันที่ 6 ต.ค.55 และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.55 เป็นต้นไป คาดว่าจะปิดโครงการได้กลางปี 57 โดยในปีนี้จะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ราว 50-60 ล้านบาท และในปี 56 จะทำรายได้มากถึง 500 ล้านบาท
"ทั้ง 2 ธุรกิจใหม่ของเราคือ พลังงานและอสังหาริมทรัพย์ จะเริ่มเห็นรายได้ที่ชัดเจนเข้ามา ตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นไป โดยจะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวม ในขณะที่อีก 80% จะเป็นรายได้จากธุรกิจก่อสร้าง แต่ในส่วนของกำไรสุทธิ สัดส่วนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยสัดส่วนกำไรของทั้ง 2 ธุรกิจใหม่จะขึ้นมาเป็น 50:50 และในปี 57 กำไรจากธุรกิจพลังงานรวมกับอสังหาจะขึ้นมาเป็น 60% ขณะที่สัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจก่อสร้างจะลดลงเหลือประมาณ 40%"นายเจริญ กล่าว