สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบว่า มาตรการรับมือกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.23% แตะที่ 1.2564 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2593 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนแรงลง 0.08% แตะที่ 1.5872 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5885 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.420 เยน จากระดับ 78.230 เยน และดีดตัวขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9560 ฟรังค์ จากระดับ 0.9534 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.21% แตะที่ 1.0222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0243 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.45% แตะที่ระดับ 0.7935 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7971 ดอลลาร์สหรัฐ
แม้มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า อีซีบีอาจจะใช้มาตรการช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาด้านการเงินในยูโรโซนในการประชุมครั้งนี้ แต่นักลงทุนกังวลว่าอีซีบีอาจจะไม่ประกาศมาตรการที่ชัดเจน ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินยูโรอ่อนตัวลง
กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวต่อรัฐสภายุโรปว่า อีซีบียินดีซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี เพื่อช่วยลดต้นทุนเงินกู้ในประเทศที่ประสบปัญหาทางการเงิน พร้อมระบุว่าการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบี ซึ่งมีกำหนดไถ่ถอนนานถึงประมาณ 3 ปีนั้น จะไม่ละเมิดสนธิสัญญาของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งห้ามไม่ให้อีซีบีช่วยเหลือประเทศสมาชิกด้วยการระดมทุน
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์เพื่อความปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ซึ่งร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 49.6 จุด จาก 49.8 จุดในเดือนก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 50 จุด โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ค.หดตัวลง 0.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 1 ปี และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นปานกลาง
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศต่างๆในยุโรปในวันนี้ รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของอิตาลี ฝรั่งเส เยอรมนี อังกฤษ และยูโรโซน นอกจากนี้ อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. และอียูจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.
ส่วนในฝั่งสหรัฐนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 2 ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย