พรรครีพับลิกันของสหรัฐอเมริกาโจมตีประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประด็นการรับมือเศรษฐกิจ หลังจากมีตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าหนี้สาธารณะของประเทศมีจำนวนมากกว่า 16 ล้านล้านดอลลาร์
ตัวเลขของกระทรวงการคลังระบุว่า หนี้สาธารณะของสหรัฐแตะระดับ 16 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคาร โดยเพิ่มขึ้นกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเที่ยบกับช่วงที่ปธน.โอบามาเริ่มเข้าบริหารประทศในปี 2552
นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ระบุว่าเรื่องดังกล่าวเป็น "สิ่งเตือนใจที่น่าเศร้าอีกเรื่อง" เกี่ยวกับการที่ปธน.โอบามาไม่ได้รักษาสัญญาในการลดรายจ่ายของรัฐบาล
นายโบห์เนอร์กล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า "แทนที่จะดำเนินงานในแนวทางของทั้งสองพรรคเพื่อปฏิบัติตามสัญญา ประธานาธิบดีกลับใช้เงินไปอย่างสิ้นเปลือง ซึ่งส่งผลให้ชาวอเมริกันแต่ละคนต้องมีส่วนแบกรับภาระหนี้ 50,000 ดอลลาร์จากหนี้สินของประเทศจำนวน 16 ล้านล้านดอลลาร์นี้"
นายไรอัน วิลเลียมส์ โฆษกของนายมิทท์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ก็แสดงความผิดหวังกับหนี้จำนวนมหาศาลดังกล่าว โดยระบุว่า "หนี้จำนวนนี้เป็นสิ่งบั่นทอนเศรษฐกิจของเรา และเป็นภาระหนักแก่ลูกหลานของเรา และยังเป็นสิ่งบ่งชี้อีกประการหนึ่งว่านโยบายต่างๆของประธานาธิบดีทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง"
ณ เดือนกรกฎาคม การขาดดุลงบประมาณรวมในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 9.738 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้สหรัฐมีแนวโน้มจะขาดดุลงบประมาณกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นปีงบประมาณที่ 4 ติดต่อกัน
ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจและงบประมาณของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในเดือนที่แล้ว สำนักงบประมาณของสภาคองเกรสสหรัฐ ประเมินว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณ 2555 ซึ่งจะสิ้นสดุลงในเดือนกันยายนนี้ จะมีจำนวน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน