นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ไทยและชิลีสามารถสรุปผลการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี(FTA)ไทย-ชิลีได้แล้ว โดยพร้อมให้ผู้นำทั้ง 2 ประเทศประกาศความสำเร็จของการเจรจาได้ในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก(กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก) ที่จะจัดขึ้นที่สหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งฝ่ายไทยจะมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประกาศความสำเร็จ
โดยสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์คือ ข้าว เพราะชิลีจะทยอยยกเลิกภาษีนำเข้าภายใน 5 ปี ซึ่งเป็นการเปิดตลาดข้าวที่ดีกว่าที่ชิลีเปิดตลาดให้แก่ข้าวจากเวียดนามและจีน ส่วนสินค้าอื่นๆ ได้แก่ รถปิกอัพ, ยางและผลิตภัณฑ์ยาง, ปูนซีเมนต์, เม็ดพลาสติก และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น ตู้เย็น เป็นต้น ขณะเดียวกันไทยยังสามารถนำเข้าวัตถุดิบราคาถูกจากชิลี เช่น แร่ทองแดง เป็นต้น
สำหรับด้านการค้าบริการและการลงทุน ชิลีได้เปิดตลาดให้ไทยเข้าไปจัดตั้งกิจการร้านอาหารไทย สปา นวดแผนไทย การค้าส่ง ค้าปลีก วิศวกรรม สถาปัตยกรรม ก่อสร้าง ท่องเที่ยว กิจการโรงแรม เป็นต้น
"คาดว่าผลของการเจรจาเอฟทีเอที่สำเร็จในครั้งนี้ จะทำให้การค้าและการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศโตขึ้นไม่น้อยกว่า 30% โดยหลังจากประกาศผลสำเร็จแล้ว ทั้ง 2 ประเทศจะเร่งดำเนินการตามกระบวนการภายในเพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นปี 56" นางศรีรัตน์ กล่าว