นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ส่วนราชการที่ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุยินยอมให้กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุที่ส่วนราชการครอบครอง แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่เต็มพื้นที่ที่สามารถสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้านพลังงานมาพัฒนาเป็นสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ(NGV)
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล กรมธนารักษ์จึงจัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ระหว่างกรมธนารักษ์ และ บมจ.ปตท.(PTT) โดยกรมธนารักษ์จะให้ ปตท.เช่าที่ราชพัสดุสำหรับเป็นสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV) ซึ่งการขยายจำนวนสถานีบริการดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และช่วยแก้ปัญหาความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในแต่ละสถานี
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์และ ปตท.ได้ร่วมกันพิจารณาที่ราชพัสดุในเขตกรุงเทพฯ ที่มีความเหมาะสมในการตั้งสถานีบริการฯ เบื้องต้น จำนวน 4 แปลง ดังนี้ 1.ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.047 (บางส่วน) เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 2-0-49 ไร่ 2.ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1044 (บางส่วน) เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 5-0-0 ไร่ อยู่ในการครอบครองใช้ประโยชน์ของสำนักงานพัฒนาที่ดินชายทะเล เขต 2 กรมพัฒนาที่ดิน
3.ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1905 (บางส่วน) เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 3-2-0 ไร่ อยู่ในการครอบครองใช้ประโยชน์ของสำนักงานสรรพากรพื้นที่ 15 กรมสรรพากร และ 4.ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.0493 (บางส่วน) เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 3-0-0 ไร่
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้ให้ ปตท. เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อจัดตั้งสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ (NGV แล้ว จำนวน 1 แปลง คือ ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.0475 โฉนดเลขที่ 8682 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 2-0-49 ไร่ กล่าวได้ว่า เป็นการนำที่ราชพัสดุไปใช้ประโยน์ได้อย่างสูงสุดและเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้านพลังงานอีกด้วย