นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขานรับการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่มีปัญหาหนี้สินในยูโรโซน เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศดังกล่าว
“เราพอใจอย่างยิ่งกับโครงการ Outright Monetary Transactions (OMT) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานใหม่ของอีซีบีสำหรับการแทรกแซงตลาดพันธบัตรของประเทศต่างๆที่ยอมรับการสนับสนุนของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) เพื่อดำเนินแผนการปรับปรุงด้านเศรษฐกิจมหภาคและเดินหน้าความพยายามเชิงโครงสร้างและการคลังที่เกี่ยวข้องกัน ไอเอ็มเอฟพร้อมที่จะร่วมมือภายในกรอบการทำงานของเรา" ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง
“การดำเนินการที่ชัดเจนของโครงการแทรกแซงครั้งใหม่จะช่วยปรับปรุงการทำธุรกรรมทางการเงิน และหนุนความพยายามของประเทศต่างๆในการระดมเงินที่ระดับต้นทุนที่เหมาะสม ขณะที่ประเทศเหล่านั้นดำเนินการปรับปรุงด้านเศรษฐกิจมหภาคอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าการดำเนินงานของอีซีบีเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งสู่การเสริมความแข็งแกร่งด้านเสถียรภาพและการขยายตัวในยูโรโซน"
เมื่อวานนี้ อีซีบีเปิดเผยโครงการซื้อพันธบัตรรอบใหม่ที่เรียกว่า "Outright Monetary Transactions" สำหรับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นแบบเปิดกว้างโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับต่ำสำหรับประเทศที่ประสบปัญหาทางการเงิน
นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า สภาบริหารของอีซีบีได้ตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินโครงการ OMT ในตลาดรองสำหรับพันธบัตรรัฐบาลในประเทศยูโรโซน ขณะที่อีซีบีระบุว่าสภาพคล่องที่เกิดจากโครงการดังกล่าวจะถูกดึงออกจากระบบเต็มจำนวน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ โครงการใหม่ดังกล่าวจะนำมาใช้แทนโครงการ Securities Market Program (SMP) ที่อีซีบีเคยนำมาใช้เพื่อซื้อพันธบัตรของรัฐบาลในยูโรโซนเมื่อเดือนพ.ค.2553 สำนักข่าวซินหัวรายงาน