นักวิเคราะห์คาดเฟดจ่อใช้ QE3 หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

ข่าวต่างประเทศ Monday September 10, 2012 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มาร์ค แซนดี และ แอรอน สมิธ นักวิเคราะห์จากมูดีส์ อนาไลติก คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ หรือ QE3 หลังจากมีรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 96,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนส.ค.นั้น แม้ว่าลดลงสู่ระดับ 8.1% จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 8.3% แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก

นักวิเคราะห์ทั้งสองของมูดีส์ อนาไลติกกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การจ้างงานในภาคส่วนอื่นๆยังคงซบเซา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าตลาดแรงงานของสหรัฐจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน และทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการซื้อสินทรัพย์จำนวนมาก และอาจจะขยายระยะเวลาการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดการเงินจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานอีกเพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในเดือนพ.ย. และมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการประชุมของเฟดในเดือนนี้

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณในระหว่างการกล่าวสุทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิงเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อหนุนการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนของสหรัฐ

เบอร์นันเก้กล่าวว่า "ภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐถือเป็นสิ่งที่ 'น่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง' และเฟดจะจัดหาการสนับสนุนด้านนโยบายเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น อัตราการขยายตัวของตลาดแรงงานเป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก ในขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายระยะยาวของเฟดอยู่กว่า 2%"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ