นักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาหลายเหตุการณ์สำคัญๆที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีว่าด้วยความชอบด้วยกฎหมายของกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)
การดำเนินงานของ ESM ขึ้นอยู่กับคำตัดสินในด้านบวกของศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนี ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ในประเด็นที่ว่ากองทุน ESM ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของเยอรมนี และคำตัดสินดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเยอรมนีเป็นผู้จ่ายเงินสมทบสูงสุดในยูโรโซน
ทางด้านรัฐบาลเยอรมนีมีความเชื่อมั่นว่า ศาลจะไม่มีคำวินิจฉัยที่จะเป็นการขัดขวางการจัดตั้งกองทุน ESM ตามแผนของยุโรป หลังจากที่การดำเนินงานของ ESM ล่าช้าไปจากแผนเดิมที่กำหนดไว้เมื่อเดือนก.ค.
โฆษกกระทรวงการคลังเยอรมนีกล่าวในการแถลงข่าวถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับคำตัดสินที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยเชื่อว่า ESM จะสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของประเทศ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจคิม กอคของเยอรมนีระบุว่าจะไม่ลงนามรับรองกฎหมายว่าด้วย ESM และสนธิสัญญาการคลัง จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล
ESM เป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของสหภาพยุโรปและมีวงเงิน 5 แสนล้านยูโร (6.23 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งจะดำเนินการต่อจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) นั้น แต่เดิมมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่เยอรมนีคาดว่า จะให้เงินสนับสนุน 2 แสนล้านยูโร (2.50 แสนล้านดอลลาร์) แก่ ESM