นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีอนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ในวันนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้กับยุโรป
"วันนี้เป็นวันดีของเยอรมนีและยุโรป" นางแมร์เคลกล่าวต่อรัฐสภา "วันนี้เป็นอีกครั้งที่เยอรมนีส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้ยุโรป และที่เหนือกว่านั้นคือ เยอรมนีจะแบกรับความรับผิดชอบในฐานะประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปและในฐานะพันธมิตรที่พึ่งพาได้"
ในวันนี้ ศาลเยอรมนีตัดสินใจที่จะไม่ออกคำสั่งห้ามชั่วคราวตามที่กลุ่มผู้ยื่นคำร้อง 38,000 รายต้องการเพื่อป้องกันไม่ให้ปธน.โจคิม กอค ดำเนินกระบวนการให้สัตยาบันกองทุน ESM และสนธิสัญญาการคลังของยุโรปด้วยการลงนามเป็นกฎหมาย นับเป็นการปูทางให้กองทุน ESM วงเงิน 5 แสนล้านยูโรสามารถดำเนินการต่อได้ จากเดิมที่มีแผนจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.แต่ต้องเลื่อนออกไป
"ความเชื่อมั่นในยูโรโซนถูกทำลาย เราต้องอาศัยกระบวนการที่ยากลำบากในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับคืนมา" นางแมร์เคลกล่าว "เราควรพัฒนาสหภาพเศรษฐกิจและการเงินในยุโรปต่อไป"
"ในวิกฤตการเงินอียู เราควรแก้ปัญหาที่ต้นตอ บัดนี้เราจำเป็นต้องยกระดับความสามารถในการแข่งขันตั้งแต่รากฐาน" นางแมร์เคลกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน